fbpx

เก็บเหรียญยังไงให้ปลอดภัย

จากข่าวเจ้าของเว็บเทรดแคนาดาเสียชีวิต
ทำให้นักเทรดไม่สามารถถอนเงินได้
ถึงเวลาหรือยังที่เราต้องเก็บเหรียญให้เป็น

เก็บเหรียญยังไงให้ปลอดภัย

4 Mar 2019

เมื่อExchangeไม่การันตีความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล ถึงเวลาหรือยัง? ที่เราควรดูแลความมั่งคั่งของเราด้วยตัวเราเอง เหตุการณ์จากอดีตที่ส่งผลร้ายแรงต่อวงการคริปโต ส่วนมากจะเป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับตลาดแลกเปลี่ยนและกฎหมาย

Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!

กฎหมายอาจทำให้คุณไม่สามารถถือสินทรัพย์ได้ ถ้าถืออยู่ก็ต้องขายออกไป ตัวอย่างกรณีจีนออกกฎหมายห้ามซื้อขายคริปโตเมื่อปลายปี2017 ทำให้นักเทรดคริปโตชาวจีนจำนวนมาก ขายสินทรัพย์เหล่านี้ออกมา

แต่ตลาดแลกเปลี่ยน (Exchange) อาจทำให้ความมั่งคั่งคุณหายไปทั้งหมดเลย ช่วงที่ตลาดคริปโตพังครั้งแรกในช่วงต้นปี2014 เกิดมาจาก Mt.Gox เว็บเทรดที่ถือครองปริมาณการเทรดกว่า70%ของทั้งโลก ออกมาบอกว่าโดนแฮก ทำให้ไม่มีเหรียญคืนแก่นักเทรดที่ฝากเหรียญเข้ามาเทรด ทำให้นักเทรดจำนวนมากสูญเสียทุกอย่างที่พวกเค้ามีอยู่ตลาดเทรดแห่งนั้น ภายหลังก็มีเหตุการณ์ทำนองนี้ออกมาอีก นักเทรดบางส่วนเริ่มตื่นตัวขึ้น แต่แน่นอนว่านักเทรดบางส่วนก็ยังไม่สนใจ เคสล่าสุดที่เกิดขึ้นคือ Cryptopia.nz เว็บเทรดเหรียญขยะ (Shitcoin) ที่ใหญ่อันดับต้นของโลก โดนแฮกและปิดบริการมาตั้งแต่ช่วงต้นปี2019 และกำลังจะกลับมาเปิดในเดือนมีนาคม2019นี้

หรืออีกกรณีที่เป็นเว็บเทรดของแคนาดา ผู้ก่อตั้งเว็บได้ลาจากโลกไป โดยที่ไม่มีใครสามารถเข้าถึงคริปโตในเว็บได้อีกเลย เพราะเว็บพวกนี้จะแบ่งกระเป๋าเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือ Hot Wallet ในปริมาณนึง เพื่อเป็นสภาพคล่องในการถอนของนักเทรด และเก็บเหรียญส่วนมากไว้ใน Cold Wallet ซึ่งปลอดภัยกว่า เมื่อเหรียญใน Hot Wallet ลดลงก็จะโอนจาก Cold Wallet มาเดิม ในเคสของเว็บเทรดแคนาดารายได้ ผู้ก่อตั้งเป็นผู้เดียวที่ทำการเก็บรหัสผ่าน Cold Wallet ไว้ ทำให้เมื่อเขาตายไป ไม่มีใครสามารถเข้าถึง Cold Wallet ที่เก็บเหรียญส่วนมากของเว็บเทรดได้อีกเลย

เก็บเหรียญที่ไหนดี

ถ้าต้องการความสะดวก Hot Wallet เพราะสามารถโอนง่ายขายคล่อง แต่ความปลอดภัยจะต่ำ คนดูแลความปลอดภัยให้เรา คือผู้ให้บริการ ตรงนี้ความปลอดภัยอาจไม่ต่างจากเว็บเทรดเท่าไหร่นัก

ถ้าต้องการความปลอดภัย Cold Wallet เพราะไม่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต โดยที่เราต้องเก็บ Private Key ไว้เอง เวลาจะนำเหรียญออกมาค่อนข้างยาก เพราะต้องต่ออินเตอร์เน็ต และใช้โปรแกรมที่เก็บ Private Key มาใช้งานต่อ ซึ่งอาจผู้ใช้บางส่วนอาจไม่สะดวก เพราะต้องใช้พื้นฐานความเข้าใจระดับนึง

Hardware Wallet คือสิ่งที่ตอบโจทย์นักเทรดยุคนี้มากที่สุด เพราะความปลอดภัยระดับที่ใกล้เคียงกับ Cold Wallet และใช้งานง่าย เนื่องจาก เพียงแค่จำรหัสผ่านเข้า Hardware Wallet เท่านั้น ส่วน Private Key ทาง Hardware Wallet จะเก็บให้ ผู้ใช้เพียงแค่จำรหัสผ่านในการกู้คืน Hardware Wallet กรณีทำหายไปเท่านั้นเอง

เคยมีเพื่อนแอดท่านนึงทำ Ledger Nano S หาย ซึ่งเป็น Hardware Wallet ราคาประมาณ3พันบาท เพื่อนแอดวิ่งไปซื้อ Hardware Wallet ตัวใหม่ แล้วใส่รหัสผ่านกู้ข้อมูล ก็ได้เหรียญที่เก็บไว้กลับมาเหมือนเดิมแล้ว

ดังนั้นถ้านักเทรดทุกท่านเป็นนักลงทุน อยากถือสินทรัพย์ระยะยาว หรือต้องการความปลอดภัย แอดอยากบอกว่า ลงทุนเถอะ ซื้อ Hardware Wallet มาสักอันนึง Trezor หรือ Ledger หรือแบรนด์อื่นก็ได้ และถอนเหรียญออกมาเก็บไว้เอง จะเทรดก็โอนเข้าไป เทรดเสร็จก็ถอนออกมา อย่าดองเหรียญไว้ในเว็บเทรดเลย การเก็บเหรียญที่ปลอดภัยที่สุดคือ “เก็บไว้เอง” จะเลือก Hardware Wallet หรือ Cold Wallet ก็ได้ แต่แอดไม่สนับสนุนการเก็บใน Hot Wallet 

Article
Writer

Maybe You Like