ในปี2018ที่ผ่านมา แม้ราคาของBitcoinลดลงอย่างมาก แต่เหล่ากองทุนคริปโตกลับไม่ได้น้อยลงขึ้นเลย ในช่วงปลายปี2018เราพบว่ากองทุนคริปโตจำนวนมากได้ปิดตัวลง จากราคาของสินทรัพย์คริปโตที่ลดลง แต่สิ่งที่น่าตกใจก็คือมีกองทุนคริปโตหน้าใหม่เกิดขึ้นมาเยอะมาก มากกว่ากองทุนที่ปิดตัวไปเสียอีก ทำให้มูลค่าสินทรัพย์รวมที่อยู่ใต้การบริหารของกองทุนเหล่านี้ (AUM) เพิ่มมากขึ้น
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!Note : AUM ย่อมาจาก Asset Under Management แปลว่าสินทรัพย์ภายใต้การควบคุม
จะเห็นว่าจำนวนของกองทุนหน้าใหม่ในช่วง4ปีที่ผ่านมากลับลดน้อยลง
แต่กองทุนคริปโตในช่วง4ปีที่ผ่านมากลับเพิ่มขึ้น
แต่ถ้าดูจากสถิติย้อนหลังจะพบว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการก่อตั้งกองทุนจำนวนมากขนาดนี้ เคยมีปรากฏการณ์แบบนี้มาแล้วในปี2013ช่วงที่คริปโตบูมมากๆ จากตอนนั้นที่ราคาราว 200$ ขึ้นไปแตะ 1300$ ตามด้วยเหตุการณ์เว็บเทรด Mt.gox (ในเวลานั้นมีส่วนแบ่งการเทรดจากตลาดถึง70%) ปิดตัวทำให้ราคาของ Bitcoin หลังจากต้นปี2014 ล่วงลงเหลือเพียง 200$ เท่าน้ัน และส่งผลถึงจำนวนกองทุนที่ก่อตั้งในปี 2014-2016 มีการจัดตั้งน้อยลงตามไปด้วย
และกองทุนเหล่านี้ก็กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งเมื่อ Bitcoin และเหล่าเหรียญเล็กๆอย่าง Altcoin ที่ทำกำไรให้เป็นกอบเป็นกำ ดึงดูดสายตาของนักลงทุนทั่วโลก และเหล่าผู้บริหารกองทุน ทำให้ปริมาณกองทุนจัดตั้งกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง จากรูปเราจะเห็นว่าปี 2017-2018 เกิดการจัดตั้งกองทุนคริปโตอน่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
สถานที่ตั้งของเหล่ากองทุนส่วนมากจะอยู่ในอเมริกาและยุโรป
-
77กองทุน ตั้งอยู่ที่อเมริกา (46.68%)
-
35กองทุน ตั้งอยู่ที่ยุโรป (21.21%)
-
36กองทุน ตั้งอยู่ที่เอเชีย (21.81%)
-
17กองทุน ตั้งอยู่นอกเหนือจากที่ระบุข้างต้น (10.30%)
แม้กฎหมายของอเมริกาอาจยังไม่ได้ยอมรับคริปโตมากนัก แต่กองทุนส่วนมากกลับตั้งอยู่ที่อเมริกา และถือครองส่วนแบ่งกองทุนถึงครึ่งนึงของโลก ส่วนเอเชียกลับมีส่วนแบ่งกองทุนคริปโตประมาณ 21.81% เท่านั้น
ในช่วงขาลงช่วงแรกของปี2018 ราคาคริปโตลดลงกว่า50% จาก 12000$ มาหยุดอยู่ที่ 6000$ ในช่วงเวลาหนึ่ง แต่สินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารของกองทุนกลับลดลงน้อยมาก จากที่ระดับ 5.86พันล้านดอลลาร์ มาอยู่ที่ 5.58พันล้านดอลลาร์ ลดลงเพียง 4.8%เท่านั้น ตัวเลขนี้กำลังบอกว่ากองทุนทำผลงานการเทรดได้ดีกว่านักลงทั่วไปมาก เพราะส่วนมากราคาลดตามตลาดหรือมากกว่านั้นด้วยซ้ำ
และในช่วงครึ่งปีหลังของปี2018 ราคาคริปโตก็ลดลงไปอีก ช่วงนี้นี่เองที่มีข่าวว่าเหล่ากองทุนต่างพากันปิดสำนักงาน ปิดกองทุน และกอดคอกันออกจากตลาดเทรดที่โหดร้ายแห่งนี้ไป แต่นั่นเหมือนจะเป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งของกองทุนทั้งหมด และข่าวที่ออกมาในช่วงเวลานั้นไม่มีตัวเลขยืนยัน อาจจะทำให้เกิดการตกใจมากกว่าที่ควรจะเป็น จริงอยู่ว่ามีกองทุนที่ต้องปิดตัวและสินทรัพย์ในบางกองทุนลดลง แต่กองทุนบางแห่งกลับมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และนั่นสะท้อนออกมาในภาพรวมสินทรัพย์กองทุน ปริมาณสินทรัพย์ของกองทุนเพิ่มขึ้นจาก 5.58พันล้านดอลลาร์ในช่วงกลางปี2018 มาหยุดอยู่ที่ 8.34พันล้านดอลลาร์ในช่วงปลายปี2018 เพิ่มขึ้นประมาณ 49.46%
ตลาดคริปโตเป็นตลาดที่มีความผันผวนสูง หาความแน่นอนทางราคาไม่ได้ หากท่านไม่ได้มีประสบการณ์และเวลาในการจัดการสินทรัพย์เหล่านี้ให้ดีพอ กองทุนก็อาจเป็นตัวเลือกนึงที่ดีสำหรับท่าน
StatisticCredits : https://cryptofundresearch.com/