จากตอนก่อนหน้ากล่าวถึงเรื่อง Smart Contract with Data Oracle กับ Oracle Cross Check ไป ในบทความนี้เรามีดูภาพใหญ่กันบ้าง ปกติแล้วทุกอุตสาหกรรมจะมีการทำสมาคม เพื่อวางมาตรฐานของอุตสาหกรรม ทำให้การพัฒนาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น QR Code การออกแบบ QR Code และการอ่านก็มีหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับการออกแบบของแต่ละบริษัท ดังนั้นปัญหาจึงตกกับผู้ใช้ เพราะบางทีแอพของบริษัทนึง ไม่สามารถอ่าน QR Code ของอีกบริษัทนึงได้ ดังนั้นจึงมีการแก้ปัญหาขึ้นมา โดยการวาง QR Code ให้เป็นไปในรูปแบบเดียวกับ ทีนี้เราก็สามารถใช้แอพไหนสแกน QR Code ที่ไหนก็ได้ ตราบใดที่มันอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบัน
ดังนั้น การส่งข้อมูลในอนาคตก็เช่นกัน Data Oracle ต่างๆในอนาคต ก็จะต้องวางมาตรฐานร่วมกัน เพื่อให้ผู้ใช้งานนำไปใช้ได้ง่ายๆ และมูลค่าตรงนี้ก็ค่อนข้างมาก เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการล้วนกินมีรายได้ตรงนี้ต่อปี หลักพันล้านดอลลาร์ ถึงหมื่นล้านดอลลาร์ต่อปีเลยทีเดียว ซึ่งต้นทุนของบริษัทพวกนี้คือวิศวกรระบบ (Software Engineer) และต้นทุนอุปกรณ์อย่างพวกเซิร์ฟเวอร์ (Server) ซึ่งต้นทุนเหล่านี้ก็จะเป็นส่วนน้อยของค่าใช้จ่ายเท่านั้น ทำให้บริษัทที่ให้บริการข้อมูลทางการเงินได้กำไรค่อนข้างมาก สังเกตจาก Michael Bloomberg ที่กลายเป็นมหาเศรษฐี10คนแรกของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สินกว่า 55.4พันล้านดอลลาร์ หรือ5.54หมื่นล้านดอลลาร์ ราว1.65ล้านล้านบาท มากกว่าเจ้าสัวธนินท์แห่งเครือ CP
โดยปัจจุบัน Faceset และ Bloomberg มีรายได้กว่าหมื่นล้านดอลลาร์จากการขายข้อมูลเหล่านี้ให้แก่สถาบันการเงินทั่วโลก เพื่อใช้อ้างอิงกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินหลากหลายชนิด (Financial Products)
เมื่อนับรวมผู้ให้บริการข้อมูลทางการเงิน8เจ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก จะมีขนาดมูลค่าตลาดรวมกันถึง 2.15แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่า GDP ประเทศเล็กๆแถวอ่าวไทยซะด้วยซ้ำ โดย4เจ้าใหญ่ หรือ Big4 ของวงการผู้ให้บริการข้อมูลทางการเงิน(Financial Data Provider) คือ Bloomberg, Thomson Reuters, S&P GMI, Moodys ซึ่งทั้ง4เจ้าก็มีส่วนแบ่งอยู่ราวครึ่งนึงของอุตสาหกรรม
แล้วสิ่งที่เกิดที่จะเกิดขึ้นหล่ะ
เราจะเชื่อใจได้อย่างไรว่า พวกเขาเหล่านี้ ส่งข้อมูลที่ถูกต้องจริง หรือแท้จริงอาจมีการปั่นตลาดอยู่เบื้องหลัง ซึ่งต่อให้มีจริง มันก็ยากที่หลักฐานจะหลุดออกมา เพราะพวกเค้ารัดกุมมาก สิ่งที่แตกต่างคือ พวกเค้าเน้นตลาดขนาดใหญ่ ที่เสนอขายระหว่างกองทุน หรือสถาบันการเงินขนาดใหญ่ จากนั้นสถาบันการเงินจะเป็นคนนำข้อมูลเหล่านี้มาอ้างอิงให้ลูกค้าดู นั่งคือสิ่งที่บริษัทกระทำต่อบุคคล (B2C) และสิ่งที่บริษัทกระทำต่อบริษัท (B2B)
ที่สำคัญคือการทำสัญญาระหว่างบุคคล (P2P : Person to Person) สามารถใช้การอ้างอิงจาก Bloomberg ได้ แต่จะขาดความยืดหยุ่นด้วย2ปัจจัย
ปัจจัยแรกคือ Bloomberg มีแค่ข้อมูลด้านการเงินเป็นหลัก ถ้าผมทำสัญญาพนันราคาของสินทรัพย์ใหม่ที่พึ่งเกิดขึ้นหล่ะ การขอข้อมูลสิ่งใหม่ที่มี Demand น้อย Bloomberg อาจไม่ทำให้ เพราะไม่คุ้มค่าระบบ
ปัจจัยที่สองคือ โดยปกติบุคคลทั่วไป อาจจ่ายเงินเพื่อดูข้อมูลของ Bloomberg แต่การเข้า Bloomberg Terminal เพื่อดูข้อมูลแบบเรียลไทม์ และใช้ API ในการซื้อขายนั้น อาจต้องเสียเงินเพิ่ม ซึ่งมากกว่าที่คนธรรมดาจะจ่ายได้ เว้นแต่มีบริษัทที่เข้ามาช่วยบริการตรงนี้เป็นคนกลางระหว่างกลุ่มคนและ Bloomberg แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นไปได้ยากมาก เพราะหาก Bloomberg ไม่เห็นด้วย การบริการประเภทนี้อาจไม่เกิดขึ้น
เราจะเห็นว่าตลาดข้อมูลนั้นยิ่งใหญ่มาก แต่ยังขาด Reference Data for P2P Smart Contract และขาดความบริสุทธิ์ของข้อมูลจากระบบการกรองผ่านส่วนกลางจุดเดียว (Centralized Providing) หากผมทำบริษัทด้านสัญญา และให้ใครก็ได้เข้ามาทำสัญญากัน มันจะดีกว่าไหม ถ้าผมบอกว่าจะทำการเช็คข้อมูลอ้างอิงจากหลายฝ่าย (Cross Check the Reference Data) และที่สำคัญกว่าคือ ข้อมูลที่มาจาก Oracle Consortium เกิดจากการรวบรวมจากกลุ่มคนจริง ทำให้ได้ข้อมูลที่หลากหลายจากสาธารณะชน มีความน่าเชื่อถือมากกว่า (Trust&Confidence)
ปัญหาคือผมต้องเชื่อมต่อบริการของแต่ละบริษัทเข้ามาที่ระบบของผม แต่ละบริษัทก็ล้วนมีการส่งข้อมูลที่ต่างกัน ดังนั้นผมต้องเอามาทำให้เป็นมาตรฐานภายในก่อน (Internal Standard) ก่อนจะนำไปใช้อ้างอิงต่อ
ดังนั้นมันจะดีกว่าไหม ถ้ามีสมาคมกลางของอุตสาหกรรมข้อมูล ที่วางรากฐานการส่งข้อมูลแบบเดียวกัน เพื่อง่ายต่อการนำไปใช้งาน นอกจากจะทำให้บริษัทนำไปใช้งานได้ง่ายแล้ว ลูกค้าหรือคนทุกคนบนโลกก็จะใช้ชีวิตง่ายขึ้นด้วยเช่นกัน
สิ่งที่ผมอยากจะเห็นคือ ถ้าวันนึง Chainlink กับ Band Protocol และบริษัทด้านการให้บริการข้อมูล มาร่วมกันสร้างสมาคมเพื่อให้บริการข้อมูลบนมาตรฐานเดียวกัน มันจะยกระดับการทำประกันและสิ่งอื่นๆอีกมากมาย และแน่นอน มันจะกลายเป็นหนึ่งในสมาคมที่เปลี่ยนโลก และจะอยู่ไปอีก30ปีเป็นอย่างน้อยอีก (หากทำสำเร็จนะ)
แน่นอนว่ามีบริษัทที่รอจ่ายเงินเปย์อยู่แล้วเช่น Lemonade และ Zhong An Insurance ซึ่งทั้งสองเป็นบริษัทประกันออนไลน์ที่มีต้นทุนต่ำมาก จากการที่ถีบหัวนายหน้าค้าประกันออกไปแล้ว แต่ไม่ต้องกังวลไปลูกค้าบางกลุ่มเชื่อใจคน ลูกค้าบางกลุ่มเชื่อใจตนเอง นายหน้าประกันจะยังอยู่ต่อไปได้ เพียงแต่จะเก้าอี้ให้นั่งน้อยลง
Cr. Data Compliance LLC
