ประเทศไหนที่เหมาะที่สุดในการเริ่มต้นทำโปรเจค Blockchain ภาค 1

ชื่อเสียงของ Bitcoin ไม่ได้เกิดจากแค่เพียงการปฏิวัติเป็นสกุลเงินดิจิตอล บริษัททั่วโลกได้พยายามหาความเป็นเป็นได้ในการนำเทคโนโลยี Blockchain ระดับต่างๆ รวมเข้าไปใน รถยนต์ โทรศัพท์ และ ทั้งการพยายามเข้ามาแทนที่ ธนาคาร รัฐบาล รวมไปถึงการขนส่งต่างๆไม่ใช่เพียงแค่กลุ่มบริษัทเล็กๆ ที่พยายามจะผลักดันนวัตกรรมใหม่ๆทางด้าน Blockchain บริษัทใหญ่ๆ เช่น Amazon, Alibaba และ Microsoft ถึงอย่างนั้นบริษัทเหล่านี้ก็พยายามที่จะต่อรองกฎระเบียบต่างๆ ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐหลายๆบริษัทเกิดขึ้นด้วย Cryptocurrency และมีการระดมทุน ICO ด้วย หน่วยที่งานที่กำกับดูแลเลยเกิดปัญหาว่าจะทำการควบคุมวิธีการระดมทุนแบบ ICO ได้อย่างไรสำนักงาน ก.ล.ต. ทั้งประเทศจีน สวิสเซอร์แลนด์ หรือประเทศต่างๆทั่วโลกมีมุมมองที่ต่างกันไป ในการควบคุม สนับสนุนทางด้าน startup หรือห้ามการใช้เทคโนโลยี Blockchainดังนั้นลักษณะของผลิตภัณฑ์ Blockchain ทั่วโลกจึงต้องไม่ต้องกังวลเกี่ยวลูกค้าในภูมิภาค แต่สิ่งที่สำคัญกับ Blockchain เรื่องกฎหมาย การเข้าหากลุ่มประชาชน ค่าธรรมเนียม และหลายๆปัจจัยในแต่ละประเทศ ที่จะมองเห็นประโยชน์ของมัน

Cryptocurrency Havens

รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลต่างๆ ได้ควบคุมเพื่อนที่จะสร้าง “สวรรค์ของ Cryptocurrency” (cryptocurrency havens) หลายๆประเทศต่างพยายามที่จะดึงโครงการของ fintech และ Blockchain หวังว่าจะช่วยปฏิวัติทางการเงิน เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองมีหลายประเทศที่สร้างเมืองขึ้นมารองรับ เช่น สวิตเซอร์แลนด์ มอลตา และ เบอร์มิว ประเทศเหล่านี้กำลังสร้างกฏหมายและปรับตัวเพื่อต้อนรับโครงการ Blockchain ต่างๆจากทั่วโลกแต่อีกด้านหนึ่ง ก็มีประเทศที่พยายามจะกีดกัดโปรเจค Blockchain หลายๆโปรเจคเท่าที่ทำได้ แล้วก็สำเร็จแล้วในหลายๆเคส หนึ่งในนั้นคือประเทศจีน ที่ห้ามทั้ง ICO และ Exchange ในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างๆได้อย่างจำกัดตัวอย่างเช่น Huabi หนึ่งใน Exchange ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้ถูกบังคับให้ออกจากประเทศจีน ในเดือนกันยายนเมื่อปีที่แล้วเพราะเกิดการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย ตั้งแต่นั้น Exchange ก็ได้เปิดสำนักงานในหลากหลายพื้นที่ ทั้งออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา สิงคโปร เกาหลีใต้ และอื่นๆถึงแม้ว่าประเทศเหล่านี้ไม่ได้สนับสนุน Cryptocurrency ทั้งหมด แต่ประเทศเหล่านี้ก็มีการสร้างกฎระเบียบที่สามารถทำตามได้โดยง่าย

Importance of a regulatory framework

บางครั้งกฎระเบียบก็ถูกมองข้ามไป เมื่อผู้คนใช้เวลาอยู่กับ Blockchain พวกเขาเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี แต่ก็มีบางบริษัทได้หายไปเมื่อมีการระดมทุนเสร็จสิ้นจากการสร้างบริษัทที่ไม่มีข้อจำกัดถึงอย่างไร การมีบริษัทที่เห็นคุณค่าของการสร้าง บริษัท Blockchain ของตัวเองในกรอบที่กำหนด และก็เป็นกฎที่ปฏิบัติตามได้ง่ายหนึ่งในประเทศแรกที่สร้างกฎระเบียบสำหรับโปรเจค Blockchain และเป็นกฎที่เป็นมิตรกับ Crypto ก็คือ สวิตเซอร์แลนด์

Switzerland – Crypto Valley

ในสหรัฐมี Silicon Valley แต่ในสวิตเซอร์แลนด์ต้องการที่จะมี Crypto Valley 2.0 ในเมืองเล็กๆของ Zug ถึงอย่างไรก่อนที่ Zug จะเปลี่ยนเป็นเมือง Cryptocurrency อย่างเต็มรูปแบบ สวิตเซอร์แลนด์กำลังมุ่งที่จะเป็น fintech sandboxเมื่อกรกฎาปีที่แล้ว สวิตเซอร์แลนด์ได้วางแนวทางสำหรับบริษัทที่มีการระดมทุนโดยบุคคลอื่นๆ ราวๆ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อทดสอบนวัตกรรมทางการเงินโดยที่ไม่มีการควบคุมด้านการเงินและสกุลเงินดิจิตอลนอกจากนี้ธนาคารจะต้องได้รับการทบทวนอีกครั้ง ถ้าบริษัทเหล่านี้มีรายได้ต่ำกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐก็ต้องทำการถอนใบอนุญาติการฝาก และการ Crowdfunding เป็นเวลา 60 วัน แทนที่จะเป็น 7 วันตั้งแต่ปีนี้สวิตเซอร์แลนด์ได้เริ่มสร้างกฎเกณฑ์ที่ง่ายสำหรับ Blockchain และ บริษัท Fintech หลังจากที่มีการได้รับความนิยมในโปรเจคพวกนี้สตีเฟ่นเมเยอร์ นักกฎหมาย และ Ph.D ที่ผ่านการเรียนทาง Blockchain และ กฎหมาย ที่อาศัยอยู่ในเมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ได้เห็นข้อดีและข้อเสียของการเปิดโปรเจค Blockchain ในแถบทวีปยุโรป

‘’ สวิตเซอร์แลนด์การกำกับดูแลที่ชัดเจนในแนวทาง Swiss financial authority FINMA’s ICO Guidance ในเดือนกุมภาพันธ์ในปี 2561 นอกจากนี้ข้อสำคัญคือความเป็นไปได้ที่จะได้รับการพิจารณาก่อน ด้วย FINMA หลายๆโปรเจคที่สามารถอธิบายโปรเจคของตัวเองได้ แล้วส่งให้ FINMA โดยปกติจะได้รับ 4-8 สัปดาห์ และจะมีการบอกอย่างชัดเจนว่าจะมีการบังคับใช้กฎหรือไม่ ”

” แทนที่จะสร้างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain ขึ้นมาใหม่ ซึ่งเหมือนกับการออกกฎหมายใหม่จะนำไปสู่ความไม่แน่นอน สวิสเซอร์แลนด์เลือกที่จะใช้กรอบการกฎหมายที่มีอยู่ แต่ใช้วิธีการแบบยืดหยุ่นและมีหลักการ ” ICO ในตอนนี้ยังไม่มีอะไรใหม่สำหรับสวิตเซอร์แลนด์เพราะพวกเขาได้เห็นถึงต้นกำเนิด Ethereum Token Generation ในปีพ. ศ. 2557 และได้สร้างประสบการณ์มากมายตั้งแต่นั้น

” FINMA และหน่วยงานด้านภาษีมีประสบการณ์กับโปรเจค Crypto นับตั้งแต่การเปิดตัว Ethereum TGE ในปี 2014 ในขณะเดียวกันก็มีการจัดการ ICO เป็นจำนวนมากและโปรเจค Crypto อื่น ๆ อีกมากมายในรูปแบบการ Exchange และ Funds ดังนั้นในฐานะทีม Crypto คุณจึงไม่จำเป็นต้องอธิบายถึงเทคโนโลยี Blockchain ให้กับเจ้าหน้าที่เลย ” Meyer กล่าว

Valentin Botteron, ทนายความชาวสวิสกำลังได้ไปเยี่ยมนักเรียนที่โรงเรียนกฎหมายโคลัมเบียในนิวยอร์กจบปริญญาดุษฎีบัณฑิต ได้ทำการวิจัยการผูกขาดรวมถึงกฎหมายเรื่อง Blockchain และ Smart contract และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เขามีความคิดที่เป็นบวกกับแนวทางของสวิตเซอร์แลนด์

สวิตเซอร์แลนด์มีแนวทางที่ค่อนเป็นมิตรกับเทคโนโลยีในการควบคุมบริษัทเหล่านี้ ทั้ง Fintech, ICOs และ Cryptocurrency รัฐบาลของสวิตเซอร์แลนด์ได้พูดไว้หลายครั้งว่าต้องการให้เป็นเมืองที่กฎระเบียบที่เหมาะกับบริษัท Blockchain สวิตเซอร์แลนด์ได้เป็นเจ้าภาพในการจัดงานเกี่ยวกับ Blockchain หลายๆครั้ง และ สมาคมที่สนับสนุนกฎหมายที่เป็นมิตรกับตัวเทคโนโลยี

รัฐสภาของสวิตเซอร์แลนด์ได้เรียกร้องให้รัฐบาลไม่พลาดโอกาสที่จะเป็นประเทศแรกที่ดึงดูดนักพัฒนา Blockchain ต่างๆเข้ามาในประเทศ แล้วเสถียรภาพทางการเมืองของสวิตเซอร์แลนด์ก็ส่งเสริมให้เกิดธุจกิจอยู่แล้ว นอกจากนี้นักเศรษฐศาสตร์หลายคนยังทำวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์และกฎหมายเกี่ยวกับ Blockchain ในมหาวิทยาลัย Swiss หลายรัฐบาลได้มองสิ่งที่สวิตเซอร์แลนด์กำลังทำอยู่ และพยายามที่จะทำซ้ำและพัฒนาตาม รัฐสภาของสวิตเซอร์แลนด์พยายามผลักดันให้เป็นผู้นำทางด้าน Blockchain

แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไปนะครับ
( Which Countries Are Best to Start Blockchain Projects? Part 2 )

Napafe

Since 1997. In Cryptocurrency 2015 นักศึกษาเศรษฐศาสตร์ นักเขียนสมัครเล่น อดีตนักศึกษาวิศวะ เริ่มเล่น Bitcoin มาก่อน ก่อนจะมาเป็นเม่าในหุ้น The world is too big for us to control.