ในตอนก่อนหน้านี้แอดมินเคยได้กล่าวถึง Smart Contract Platfrom อย่าง RSK กับ Ethereum ไปบ้างแล้วแต่วันนี้แอดมินจะมาเล่าถึง Smart Contract Platform อื่นๆที่สามารถสร้าง Dapp ลงไปได้รวมถึงเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละอย่างกัน
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!
Ethereum
Ethereum นั้นจะสามารถเรียกว่ามันเป็น Smart Contract Platform ที่มีชื่อเสียงที่สุดก็ได้ด้วยความที่มันถูกสร้างขึ้นเป็นแพลทฟอร์มแรกๆ โดยมันมีจุดประสงค์ในการสร้างที่ต่างจาก Bitcoin ที่เป็น Store of Value ด้วยการที่มันต้องการเป็นแพลทฟอร์มที่อนุญาติให้ใครก็ตามเขียนโปรแกรมลงบนมันได้
คุณสมบัติของ Ethereum
- เป็นแพลทฟอร์มที่มีความนิยมสูงสุด
- ยังถูกยอมรับว่ามีความเป็น Decentralized สูงที่สุดและมีมูลค่าสูงที่สุดในปัจจุบัน
- เขียนด้วยภาษา Solidity
- ประสบปัญหาความเร็วของเครือข่ายไม่เพียงพอต่อการใช้งาน
- ใช้ระบบ Gas เป็น Transaction fee
- ใช้ระบบการยืนยันธุรกรรมด้วย Proof of Work ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะกลายเป็น Proof of Stake ในอนาคต
แม้ Ethereum จะยังเป็นแพลทฟอร์ม Smart Contract ที่เป็นที่นิยมที่สุดในปัจจุบันแต่มันก็มีปัญหาหลายอย่างที่ยังต้องแก้ไขรวมถึงมันไม่ได้ถูกสร้างมาให้เป็น Store of Value ทำให้เกิด Smart Contract Platform อื่นๆมากมาย
EOS
Eos เป็นอีกหนึ่ง Smart Contract ที่ได้รับความนิยมในแง่ของมูลค่าเเล้วมันเป็นรองเพียงแค่ Ethereum เท่านั้น โดยแนวคิดของ EOS คือการใช้หลักการของ Delegated Proof of Stake มาแทนระบบ Proof of Work โดยในระบบจะมี Node เพียง 21 Node ที่คอยยืนยันธุรกรรม ทำให้ระบบสามารถประมวลผลธุรกรรมที่รวดเร็วขึ้นได้
คุณสมบัติของ EOS
- เขียนด้วย WebAssembly ซึ่งเป็น Low level language อย่าง c,c++,rust ซึ่งมีประสิทธิภาพที่รวดเร็ว
- มีแนวคิดที่ใช้ Delegated Proof of Stake แทนการใช้พลังงานจาก Proof of Work
- มี Node เพียง 21 Node ซึ่งบางมุมมองทำให้มันขาดความ Decentralized
- ไม่มีระบบ Transaction Fee แต่ผู้ใช้ต้อง Stake EOS ไปเป็น CPU RAM และ Bandwidth ทำให้สามารถประมวลผลได้รวดเร็ว
เราจะเห็นว่า EOS เป็นแนวคิดอีกแบบที่สร้างมาแตกต่างจาก Ethereum ด้วยการนำระบบ Dpos มาใช้ แม้ EOS จะทำงานได้อย่างรวดเร็วแต่ก็มีแค่ 21 Node ซึ่งก็เคยมีข่าวกรณีที่ Node ล่มหรือมีการรวมหัวกันระหว่าง Node ทำให้มันยังมีข้อกังขาเรื่องความเป็น Decentralized
RSK
เราจะเห็นว่า EOS กับ Etherem นั้นเป็น Smart Contract Platform ที่สร้างออกมาในแนวทางที่ต่างกับ แต่ RSK กลับนำเสนอวิธีการที่แปลกใหม่ด้วยการสร้าง Sidechain ที่ทำงานควบคู่กับกับ Blockchain ของ Bitcoin ทำให้ระบบนั้นสามารถได้รับความปลอดภัยระดับ Bitcoin และสามารถ Scale ได้อย่างมหาศาลได้ด้วยการสร้าง Sidechain
- รองรับ Solidity แบบเดียวกับ Ethereum
- สามารถ Scale ได้อย่างมหาศาลด้วย Sidechain
- ใช้เหรียญ RBTC ที่รองรับแบบ 1:1 กับ BTC เป็นค่าธรรมเนียมของระบบ (หรือ Gas นั่นเอง) โดย RSK Federation เป็นผู้ดูแลการแลกเปลี่ยนนี้
- ยืนยันธุรกรรมด้วยระบบ Proof of work ที่สามารถ Merge mining กับ bitcoin ได้ทำให้สามารถขุด Bitcoin ไปพร้อมๆกับ RBTC ทำให้ RSK นั้นสามารถได้รับความปลอดภัยเหมือน Bitcoin
- การขุด RSK นั้นจะไม่มี Block Reward แบบ Bitcoin สิ่งที่ผู้ขุดจะได้มีแต่ค่าธรรมเนียมเท่านั้น ทำให้ผู้ที่คิดจะโจมตีระบบไม่มี intensive ในการคิดจะโจมตี
การใช้ RSK นั้นเป็นการใช้ประโยชน์ทางอ้อมจาก Blockchain ของ Bitcoin ทำให้ดูเหมือนว่ามันจะแก้ไขปัญหาที่มีมาของ Ethereum หรือ EOS ได้ แต่มันมีจุดกังขาเพราะมันเป็นการใช้ประโยชน์ทางอ้อมไม่ใช่การสร้าง Dapp ตรงๆบน Bitcoin
อีกส่วนหนึ่งคือ RBTC ที่นำมาใช้เป็น Gas สำหรับ Smart Contract นั้นเกิดมาได้จากการนำ BTC ไปไว้เป็น Collateral กับ RSK Federation
ผู้ที่ควบคุม Smart Contract ที่จัดการ Colletaral ของ RBTC นั้นถูกควบคุมโดย RSK Federation ที่มีสมาชิกกว่า 25 องค์กร โดยการถอน BTC ต้องให้สมาชิกจากสมาคมเหล่านี้อนุจำนวนหนึ่งอนุมัติ (เรียกได้ว่ายังมีจุด Centralized ตรงนี้ ซึ่ง RSK อ้างว่าจะเป็นแค่ในช่วงแรก)
และแม้ว่า RSK นั้นรองรับ Solidity เหมือนกับ Ethereum ทำให้คนที่สร้าง Daap บน Ethereum สามารถย้ายมา RSK ได้อย่างสะดวกแต่ปัจจุบันการ Adoption ของ RSK ก็ยังไม่มากนัก
สรุป
เราจะเห็นว่าไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีไหน Infrastructure นั้นก็ต้องเป็นสิ่งที่ถูกพัฒนาเป็นอันดับแรกจริงๆแล้วเรายังมี Smart Contract Platform อีกมากที่ไม่ได้เอ่ยถึงอย่าง Cardano Nervos Tron หรือ Cosmos
ถ้าเราจะสร้างรถยนต์ที่ทำงานได้ดีการออกแบบเครื่องยนต์เป็นสิ่งจำเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตามเราควรเลือก Smart Contract Platform โดยคำนึงถึงการใช้งานของ Dapp