Scam หรือการหลอกลวงเป็นสิ่งที่อยู่คู่ตลาดลงทุนมาทุกยุคทุกสมัย และหลายครั้งที่การหลอกลวงเหล่านี้ทำให้นักลงทุนจำนวนมากเสียเงิน และส่งผลถึงความเชื่อมั่นถึงคนที่อาจจะเข้ามาลงทุนในอนาคต สิ่งสำคัญของการระดมทุนดิจิทัลคือ Whitepaper เพราะ Whitepaper เป็นสิ่งที่จะบอกถึงรายละเอียดของโปรเจค ว่าโปรเจคนี้จะทำอะไร โปรเจคนี้มีเป้าหมายที่ตลาดไหนหรือผู้ใช้งานที่ไหนบ้าง เป็นองค์ประกอบหลักของโปรเจค ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมอย่างสมาชิกในทีม ที่ปรึกษา หรือจำนวนที่ขอระดมทุน จะบอกใน Whitepaper หรือในหน้าเว็บก็ได้ แล้วแต่โปรเจคจะจัดวาง
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!ICO หรือ Initial Coin Offering แปลว่า การเสนอขายเหรียญดิจิทัลครั้งแรกนั้น มีกระแสที่รุนแรงในช่วงปลายปี2017 ถึงช่วงต้นปี2018 ด้วยเวลาหลังระดมทุนเพียงไม่นานราคาเหรียญโปรเจคส่วนมากพุ่งทะยานอย่างบ้าคลั่ง ถ้าจะบอกว่า ผลประกอบการดีทำให้ราคาพุ่งก็ไม่น่าใช่ เพราะในเวลาอันสั้น ยากที่จะสร้างสินค้าออกขายสู่ตลาดได้ หากแต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการปั่นราคาจากการปั่นข่าวหรือหาข่าวดีมาปั่นกันเองจากคนในตลาดตั้งแต่ระดับกุ้งฝอยจนถึงระดับวาฬ ล้วนใช้กระแสปั่นราคาเพื่อหลอกฟันกำไรกันเพียงเท่านั้น เหรียญที่พัฒนาโปรดักดีๆก็โดนปั่นไปด้วย เพราะบางโปรเจคหลังระดมทุน ไม่ได้ออกมาทำการตลาดเท่าไหร่ เนื่องด้วยสินค้าต้องใช้ความทุ่มเทและเวลาในการพัฒนา โปรเจคที่ดีส่วนมากจะหายไปทำสินค้า และจะออกมาอัพเดตว่าพัฒนาสินค้าของตนถึงไหนแล้ว
กลับมาสู่ตลาดระดมทุน คนส่วนมากกระหายกำไรจากอัตราเร่งตอนนั้นที่ค่อนข้างมาก เพราะช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ไม่ว่าคุณจะลงทุนอะไรส่วนมากจะทำกำไรได้เกินเท่าตัว หรือมากกว่า100%ทั้งสิ้น ดังนั้นการหลอกลวงในช่วงเวลานั้นและหลังจากนั้นจะเยอะเป็นพิเศษ กำไรอันมหาศาลไม่ได้ล่อลวงเพียงเม่าน้อยทั่วโลก แต่กำไรเหล่านั้นเป็นเหยื่อล่อที่ล่อให้นักปั่นราคา นักสร้างสตอรี่ทั้งหลาย มาสร้างเหรียญหลอกขายแก่นักลงทุนจำนวนมาก หลายโปรเจคที่ระดมทุนหลังจากนั้น ไม่สามารถทำตามแผนที่วางไว้(Roadmap)ได้ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะทั้งหมดเป็นการสร้างสตอรี่เพียงเท่านั้น ทำได้ไม่ได้เวลาจะพิสูจน์เอง
แล้วเราจะเช็ค Scam หรือการหลอกลวงได้ไหม?
เราไม่สามารถทราบได้อย่างถ่องแท้ว่าการระดมทุนนี้หลอกลวงจริงไหม เพราะบางกรณีก็มีการหลอกลวงที่แนบเนียนมาก แต่เราสามารถตัดการหลอกลวงที่ไม่แนบเนียน และเป็นส่วนมากของ Scam ออกไปได้ โดยเราจะพูดถึงการ Scam จากโปรเจคเท่านั้น การ Scam จากพวกทำเว็บหลอก ถือว่าไม่ใช่การกระทำจากเจ้าของโปรเจค ฉะนั้นในบทความนี้จะไม่ได้กล่าวถึง
- Founder and C-Level : ตรวจสอบว่า “เจ้าของโปรเจค” มีตัวตนอยู่จริงไหม และได้ทำ ICO นี้จริงไหม สามารถตรวจสอบได้จากการตามหา Linked-In, Twitter และReddit อาจสอบถามกลุ่มสังคมใน Telegram เพื่อถกกันว่าการระดมทุนนี้เป็นอย่างไร
- Team : ตรวจสอบว่า ”ทีมงาน” มีตัวตนจริงไหม และได้ทำ ICO นี้จริงไหม สามารถตรวจสอบได้จากการตามหา Linked-In, Twitter และReddit อาจสอบถามกลุ่มสังคมใน Telegram เพื่อถกกันว่าการระดมทุนนี้เป็นอย่างไร
- Advisor : ตรวจสอบว่า ”ที่ปรึกษา” มีตัวตนจริงไหม และได้ทำการสนับสนุน ICO นี้จริงไหม สามารถตรวจสอบได้จากการตามหา Linked-In, Twitter และReddit อาจสอบถามกลุ่มสังคมใน Telegram เพื่อถกกันว่าการระดมทุนนี้เป็นอย่างไร
- No Guarantees : ต้องไม่มีการรับรองผลกำไรจากการระดมทุน เพราะแท้จริงไม่มีอะไรแน่นอน การรับประกันคือการหลอกลวง เพื่อให้ท่านเอาเงินมาลงทุนด้วยความโลภ
- Possibility : ตรวจสอบความเป็นไปได้ของโปรเจคและเอกสารขอระดมทุน (Whitepaper)
- Hardcap : ตรวจสอบปริมาณขอระดมทุน ว่าขอมากไปหรือไม่ โปรเจคนี้จำเป็นต้องใช้เงินขนาดนั้นหรือไม่
- Token Distribution : ตรวจสอบการแบ่งสัดส่วนของโทเค่น ว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ สัดส่วนต้องมีความชัดเจนและโปร่งใส
- Roadmap : แผนงานต้องมีความชัดเจน น่าสนใจ และมีอนาคต
หากตรวจสอบครบหมดแล้ว การถกเถียงกันในกลุ่มสังคมอย่าง Telegram จะช่วยให้ท่านตัดโปรเจคที่อาจหลอกลวงไปได้มากทีเดียว บางทีเราอาจมองพลาด การคุยกับคนในกลุ่มสังคมก็ช่วยให้เราเห็นและเข้าใจโปรเจคได้ชัดขึ้น หากโชคดีก็อาจมีคนไปตรวจโค้ดให้แล้วเอามาเล่าสู่กันฟังด้วย (การตรวจโค้ดมีน้อยมาก เพราะโปรเจคบางส่วนปล่อยโค้ดมาหลังการระดมทุน และการตรวจก็ต้องใช้ความเข้าใจด้านโปรแกรมพื้นฐานเข้าช่วย อีกทั้งยังเปลืองพลังงานในการตรวจมาก)