fbpx

Quantum computer จะเป็นจุดจบของ Bitcoin หรือเปล่า

Quantum Computer นั้นคืออะไร แล้วมันจะทำลาย Bitcoin ได้จริงหรือเปล่า แล้วมันเป็นไปได้ยังไง
follow blockchain review: tinyurl.com/ycp9yeyt

Quantum computer จะเป็นจุดจบของ Bitcoin หรือเปล่า

5 Nov 2018

“ในอนาคต Bitcoin จะถูกทำลายลงด้วย Quantum Computer ถ้าเทคโนโลยีนี้สำเร็จเมื่อไหร่ Bitcoin จะถูก Hack ได้”

นั้นเป็นสิ่งที่หลายๆคนเคยได้ยินกัน แล้วจริงๆ Quantum Computer นั้นคืออะไร แล้วมันจะทำลาย Bitcoin ได้จริงหรือเปล่า แล้วมันเป็นไปได้ยังไง ในวันนี้ผมจะมาอธิบายให้ทุกคนฟังกันว่า Quantum Computer นั้นจะสามารถทำลายระบบ Bitcoin ได้จริงหรือเปล่า

Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!

 

Quantum Computer คืออะไร

ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตามผมคิดว่าคุณคงจะได้เคยลองใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ้คหรือแม้กระทั้ง Smart phone ซึ่งทุกท่านน่าจะทราบว่าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์นั้นมีประสิทธิภาพและขนาดที่เล็กลงเรื่อยๆ นั้นแปลว่าในเวลาที่ผ่านมาเรามีคอมพิวเตอร์ที่ดีขึ้นเรื่อยๆตลอดมา

ซึ่งการที่อุปกรณ์คอมพิวเตอร์มีประสิทธิภาพดีขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่มีคนทำนายล่วงหน้าไว้เป็นเวลานนานแล้วโดย ”กอร์ดอน มัวร์”  โดยนายกอร์ดอนเจ้าของทฤษฎีกฎของมัวร์ บอกว่า ความเร็วที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวพันกับ ‘จำนวน’ ที่เพิ่มขึ้น และ ‘ขนาด’ ที่เล็กลงเรื่อยๆ ของหน่วยประมวล โดยในปัจจุบันหน่วยประมวลผลของคอมพิวเตอร์นั้นมีขนาดอยู่ที่ไม่กี่สิบอะตอมเท่านั้น โดยมีการคาดคะเนว่าในอนาคตว่าในอีกสิบปี หน่วยประมวลผลของคอมพิวเตอร์จะมีขนาดเท่ากับ 1 อะตอมซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดที่เป็นไปได้และกฎของมัวร์ก็จะสิ้นสุดลง.

คำถามถัดไปคือเมื่อคอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กขนาดนั้นแล้วคอมพิวเตอร์จะเร็วขึ้นอีกได้อย่างไร ซึ่งนักวิทยศาสตร์ได้ค้นพบว่าในอนุภาคระดับอะตอมถ้ามันอยู่ในอุณหภูมิความเย็นที่พอเหมาะ อะตอมจะเคลื่อนที่อย่างแปลกประหลาดและผิดหลักฟิสิกส์ ปกติหน่วยย่อยที่สุดของข้อมูลในคอมพิวเตอร์คือ Bit ที่จะมีข้อมูลเป็น 0 หรือ 1 แต่ถ้าเรานำหลักการของ Quantum Computer มาใช้เราจะเรียกหน่วยย่อยนี่ว่า Qubit ซึ่งตัว Qubit นี้เป็นหน่วยย่อยที่มีคุณสมบัติประหลาดมากเพราะมันสามารถทำหน้าที่เป็นทั้ง 0 และ 1 ได้ในเวลาเดียวกันและยังสามารถส่งสัญญาณไปยังหน่วยอื่นๆได้โดยไม่ต้องมีการส่งข้อมูล

ปัจจุบันโจทย์ที่เราใช้ Super Computer ที่เราใช้คำนวนเป็นเวลาพันปีหากใช้ Quantum Computer มันอาจจะใช้เวลาแค่ 3 นาที ทำให้มันถูกกล่าวว่ามันคืออนาคตของคอมพิวเตอร์โจทย์ปัญหามากมายอาจจะถูกแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงความเป็นไปได้ในการที่จะ Hack Bitcoin ได้เช่นกัน

 

เรายืนยันความเป็นเจ้าของบัญชีของ Bitcoin ยังไง

ก่อนที่เราจะไปพูดถึงว่า Quantum Computer จะ Hack Bitcoin ได้ยังไงเรามาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่าว่า ปกติแล้วเรายืนยันการเป็นเจ้าของบัญชี Bitcoin ได้อย่างไร ปกติแล้วผู้ใช้ Bitcoin จะทราบว่าเรามี Private key ที่เป็นเหมือน Password ของบัญชี Bitcoin และมี Address ที่เป็นเหมือนเลขที่บัญชีใช่ไหมครับ แล้วมันตรวจสอบยังไงหละว่า Bitcoin ที่มีคำสั่งโอนออกนั้นมาจากเจ้าของ Private key จริงๆ

วิธีการก็ง่ายนิดเดียวครับปกติแล้วเวลาเราส่ง Bitcoin ออกไปมันจะเป็นข้อมูลการโอนเช่น “A->B 50 BTC” แล้วหลังจากนั้นข้อมูลชุดนี้ก็จะถูกเข้ารหัสด้วย Private key แล้วมันจะกลายเป็นข้อมูลชุดนึงที่อ่านไม่รู้เรื่องโดยข้อมูลตัวนี้เราจะเรียกมันว่า ECDSA (Elliptic Curve Digital Signature Algorithm) หรือ ก็คือ Digital signature ที่แปลว่าลายเซ็นดิจิทัล และเราจะส่งข้อมูลทั้ง “A->B 50 BTC” และตัว ECDSA ไปให้ผู้รับ หลังจากนั้นผู้รับก็จะเอา ECDSA นี้แหละไปถอดรหัสด้วย Address (เนื่องจาก Address ของเรานั้นเป็นข้อมูลสารธารณะที่เปิดเผย) ถ้าผู้รับได้คำตอบออกเป็น A->B 50 BTC” ผู้รับก็จะเเน่ใจว่าเราเป็นเจ้าของ Bitcoin จริงๆ

 

แล้ว Quantum Computer จะ Hack Bitcoin ได้อย่างไร

ปกติแล้วการ Hack Bitcoin ที่เป็นไปได้นั้นคือการที่เรารู้ Address แล้วเราสุ่มเลขไปเรื่อยๆเพื่อหา Private key ที่ถูกต้องของ Address นั้นๆ ซึ่งการเข้ารหัสของ Bitcoin นั้นใช้ Algorithm ที่ชื่อว่า SHA-256 เพราะอย่างนั้นปกติแล้ว Address 1 ตัวจะมี Private key ที่เป็นไปได้ทั้งสิ้น 2^256 หรือประมาณ 10^76 ซึ่งปัจจุบันอะตอมที่สังเกตุได้ในจักรวาลมีจำนวนทั้งหมด 10^80 และนั้นที่เป็นความเป็นไปได้มหาศาลมากๆ แล้วเราต้องใช้ Quantum Computer ที่มีกำลังประมวลผลเท่าไหร่กันหละ? คำตอบคือ 1500 qubits

แล้วปัจจุบันเทคโนโลยี Quantum Computer ไปไกลถึงไหนแล้วหละ ในปี 2018 มีรายงานว่า Google นั้นมี Quantum Computer ที่มีกำลังประมวลผลอยู่ที่ 72 Qubit และทาง IBM มี Quantum Computer ที่มีกำลังประมวลผลอยู่ที่ 50 Qubit ซึ่งจากการประมาณการเราอาจจะมี Quantum Computer ที่มีกำลังประมวลผล 1500 Qubit ในปี 2030-2040 นั้นเอง

แต่ก็มีอีกกรณีนึงที่ Bitcoin จะสามารถถูก Hack ได้ง่ายขึ้นโดยการนั้นคือการหา Private key โดยใช้ ECDSA ซึ่งมันเป็นข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสจาก Private key โดยการจะสุ่มหา Private key นั้นมีความเป็นไปได้อยู่ที่ 2^128 ซึ่งมันจะเป็นวิธีการ Hack Bitcoin ที่ง่ายกว่าหาจาก Address ตรงๆ นั้นเป็นเหตุผลที่ Best Practice ของ Bitcoin ถูกออกแบบมาให้ Address นั้นใช้แค่ครั้งเดียว เพราะถ้า Address ไหนที่ไม่ได้มีการส่ง Bitcoin จะไม่มี ECDSA ให้ไป Hack นั้นเอง

 

แล้วความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นคืออะไรบ้าง

 

  • Case 1 ระบบ Bitcoin เป็นเหมือนปกติไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง Address ที่มีเคยการส่งเงินและมีเงินคงเหลือในบัญชีทำให้มี ECDSA จะถูก Hack ก่อนเป็นอันดับแรกและ Address ที่ไม่มี ECDSA จะถูก Hack ในภายหลัง
  • Case 2 ผู้ใช้งาน Bitcoin เปลี่ยนไปใช้การเข้ารหัสของ Address และ Private key ที่ยากกว่าเดิม ผลก็คือผู้ใช้งานทุกคนที่เปลี่ยน Address ก็จะปลอดภัยจากการถูก Hack แต่ Bitcoin ใน Address ของผู้ใช้งานที่ทำ Private key หายเสียชีวิตหรือไม่ยอมย้าย Bitcoin ไปยัง Address ที่ถูกเข้ารหัสแบบใหม่ก็จะถูก Hack (Bitcoin 4 ล้านกว่าเหรียญที่หายไปแล้วก็จะกลับมาในระบบอีกครั้ง อาจจะรวมถึง Bitcoin ที่ Satoshi nakamoto มีเสียด้วย)
  • Case 3 ระบบ Bitcoin เกิดการ Hard Fork ให้ผู้ใช้งานทุกคนต้องใช้ Address ที่เข้ารหัสแบบใหม่ ผลก็คือ Quantum computer ก็จะไม่มีทาง Hack Bitcoin ได้

 

ก็จบกันไปแล้วนะครับกับคำถามว่า Quantum Computer จะ Hack bitcoin ได้หรือเปล่าคำตอบคือได้ในอนาคตครับถ้าระบบ Bitcoin ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่มันก็มีวิธีป้องกันอีกมากมายที่เป็นไปได้เช่นกันทำให้เราไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เลย

 

Article
Writer

Maybe You Like