สวัสดีครับวันนี้เราจะมารีวิวหนังที่มีความเกี่ยวเนื่องกับวงการ Bitcoin และ Cryptocurrency พอสมควรเลยครับนั้นคือหนังที่ชื่อว่า Silk Road หรือชื่อไทยก็คือยุทธการปราบเว็บเถื่อน ซึ่งผมก็ได้ไปดูมาเองสดร้อนๆในช่วงบรรยกาศ Covid ที่หนังน่าจะขาดทุนในไทยแน่ๆแหละ
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!ถ้าใครที่อยู่วงการ Cryptocurrency ก็อาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับ Silkroad มาบ้างนะครับ แต่สำหรับคนที่ไม่รู้ Silkroad เป็นตลาดมืดออนไลน์ที่สร้างโดย Ross Ulbricht ในช่วงปี 2011 โดยมันเปรียบเสมือนกับ Ebay ที่มีทุกอย่างให้ซื้อขายซึ่งจะค่อนข้างหนักไปทางของผิดกฎหมายอย่าง ยาเสพติดหลายชนิด พาสปอร์ทปลอม หนังโป๊ และการซื้อขายในเว็ปไซต์นี้จะเป็นใช้ Bitcoin หลักเพราะมันสามารถปกปิดตัวตนได้ (จริงๆก็ไม่เสมอไปหรอก) และมันเป็นเหตุผลที่ทำให้ทุกวันนี้ยังมีคนที่คิดว่า Bitcoin นั้นเป็นเงินที่ถูกใช้สำหรับตลาดมืดเท่านั้น (เหมือนกับคนที่เคยเข้าใจว่าบนอินเทอร์เนตมีแต่หนังโป๊นั่นแหละ)
สำหรับใครที่อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับ Silk Road แบบคร่าวๆผมเคยทำบทความไว้แล้วลองไปอ่านได้ที่ ประวัติศาสตร์ Bitcoin ตอนที่ 7 Silkroad ตลาดมืดแห่งแรกที่ใช้ Bitcoin ในการซื้อขาย (มีสปอยนะ)
เกริ่นเรื่อง
เรื่องราวของหนังจะเป็นเรื่องราวของ Ross Ulbricht ซึ่งมีแนวคิดเกี่ยวกับเสรีภาพของคนและมีแนวคิดว่าจริงๆแล้วตลาดยาเสพติด(หรือสิ่งอื่นๆ)นั้นก็ควรจะเป็นตลาดเสรีรูปแบบหนึ่ง ก่อเลยก่อตั้งเว็ปไซต์ที่ชื่อว่า Silkroad ขึ่นมาโดยให้ผู้คนสามารถซื้อขายสิ่งต่างๆได้อย่างอิสระแบบที่ไม่ระบุตัวตนได้ โดยใช้ประโยชน์จาก Tor และ Bitcoin ทำให้ปกปิดตัวตนแทบจะสมบูรณ์แบบได้
Note: Tor นั้นเป็นระบบเครือข่ายที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถปกปิด IP ของตนเองได้เพราะเครือข่าย Tor นั้นจะประกอบด้วย Node จำนวนมากโดยข้อมูลจะวิ่งผ่าน Node เหล่านี้จะไม่รู้อะไรเลยนอกจาก IP ขาเข้าและออกของตนเอง ซึ่งแต่ละ Node นั้นก็จะมีการเข้ารหัสเป็นของตัวเอง ทำให้ข้อมูลถูกปกป้องด้วยการเข้ารหัสในแต่ละ Node จนแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะหาที่มาที่ไป
Note 2: การใช้งาน Bitcoin นั้นไม่ได้แปลว่าคุณจะปกปิดตัวตนได้ 100% เพราะธุรกรรมนั้นมีความโปรงใสอย่างชัดเจนเราจะเห็นการโอนใน Bitcoin ทั้งหมดแม้จะไม่รู้ว่าเจ้าของบัญชีเป็นใคร แต่หากมีเจ้าของบัญชีที่ยินดีจะเปิดเผยข้อมูลจะทำให้การตรวจหาเบาะแสไปยังต้นทางว่าใครเป็นคนโอนก็ไม่ใช่ที่เป็นไปไม่ได้ ยิ่งในปัจจุบันนั้นมีผู้ที่เปิดเผยมากกว่าในอดีตเป็นจำนวนมาก
ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อ Silkroad เติบโตขึ้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นตำรวจไซเบอร์หรือ FBI ก็เริ่มหาทางที่จะจับเจ้าของ Silkroad และปิดตัวมันให้ได้ ซึ่งในหนังก็จะมุ่งเน้นไปที่เรื่องราวของ ริก โบว์เดน เจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามยาเสพติดที่ใกล้เกษียนและดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยสัดทัดในเรื่องราวของเทคโนโลยีรวมซักเท่าไหร่ ที่พยายามหาวิธีการทุกทางที่เป็นไปได้ในการที่จะจับ Ross
ความเห็นส่วนตัว
โดยส่วนตัวในแง่การแสดงและความบันเทิงของหนังโดยรวมนั้นเป็นหนังที่ดูได้ค่อนข้างลื่น แต่ข้อเสียคือมันไม่ได้ดีและไม่ได้แย่ในเวลาเดียวกันหรือพูดง่ายๆคืออยู่ในเกณฑ์ที่ดูได้เอาสนุก แต่ไม่ถึงกับว้าวเท่าไหร่
ส่วนที่ค่อนข้างชอบคือบทหนังประมาณ 90% นั่นค่อนข้างเคารพต้นฉบับมากๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครแต่ละตัววิธีการสืบของ Rick Bowden และเรื่องราวระหว่าง Ross และ Rick หนังยังได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับเสรีภาพได้อย่างน่าสนใจให้คนขบคิด (นั้นทำให้มันเป็นหนังที่ดีเพราะสามารถทำให้คนขบคิดหลังหนังจบได้) และความลื่นและปนตลกนิดหน่อยของ Rick ซึ่งเป็นเหมือนคนที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีและพบกับความเสรีบนอินเทอร์เนตบนโลกใหม่
ส่วนที่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่คือหนังมีการอธิบายถึง Bitcoin ค่อนข้างน้อยมากซึ่งก็น่าเข้าใจว่ามันเป็นหนังต้องดูเอาเพลินมันไม่ใช่สารคดี แต่นั้นก็ทำให้แง่มุมหลายๆอย่างที่สามารถเอาไปเล่นได้ในหนังหายไปเยอะ แม้หนังจะมีการตั้งคำถามเกี่ยวกับเสรีภาพของผู้คนแต่มันก็ไม่ Impact มากเท่าไหร่ เพราะถ้าตีแผ่ไปที่เรื่องของ Bitcoin มันมีส่วนที่น่าสนใจมากในแง่ของเงินที่เป็นเสรีและเทคโนโลยีที่ข้อมูลไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่กลับไปเน้นในเรื่องของความสัมพันธ์และความรู้สึกของตัวละครมากกว่า ซึ่งอาจจะเหมาะกับคนทั่วไป แต่กับ Insider มันไม่ว้าวไง จุดที่รู้สึกเสียดายสุดๆคือบทหนังที่มีการพลิกประมาณ 10% นั้นเป็นจุดที่ทำให้หนังพลาดประเด็นสำคัญมากๆที่ถ้าหนังเอาไปตีแผ่อาจจะทำให้หนังมีมิติและ Impact แรงกว่านี้มาก
สรุป
ถ้าคุณเป็นคนที่อยู่ในวงการ Crypto และเคยได้ยินเรื่อง Silkroad หนังเรื่องนี้จะไม่ใช่หนังที่ทำให้คุณเสียเวลาเพราะโดยรวมก็ทำออกมาได้ค่อนข้างเพลิน แต่ถ้าสำหรับ Insider หรือแฟนบอย Bitcoin อาจจะรู้สึกขัดใจนิดๆแต่ก็ไม่ได้ทำให้หนังไม่สนุกซะจนไม่ควรไปดู ส่วนถ้าคุฯเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับ Silkroad เลยหนังเรื่องนี้อาจจะให้มุมมองเรื่องเสรีภาพที่น่าสนใจแก่คุณ (แม้จะไม่ว้าวมากก็ตาม)
.
.
.
.
.
.
Spoil สำหรับคนที่ดูแล้วหรือรับสปอยได้
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
10% ที่หนังพลิกบทไปนั้นเป็นประเด็นที่น่าเสียดายมากครับ เพราะในความเป็นจริงแล้วทางกองปราบไม่ได้รู้ทันทีว่า Rick นั้นขโมยเงินที่ได้จาก Silkroad ไปขาย หนังทำให้ Rick ดูเป็นคนดีทั้งๆที่จริงๆแล้ว Rick นั้นทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้และลบข้อมูลทุกอย่างบนคอมของ Curtis และพยายามโบ้ยความผิดทุกอย่างไปให้ Curtis ประเด็นคือ Rick พยายามทำลายหลักฐานทุกอย่างไป แต่สุดท้ายสิ่งที่เขาทำลายไม่ได้คือประวัติการทำธุรกรรมที่อยู่บน Blockchain ของ Bitcoin ซึ่งมันเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ทำให้เขาโดนจับ โดยในอดีต Rick ก็เคยทำลายหลักฐานมามากมาย ถ้าหนังเอาประเด็นเรื่องว่า Blockchain ของ Bitcoin เป็นสิ่งที่ทำลายไม่ได้และทำให้ Rick โดนจับจะน่าสนใจกว่านี้มาก