fbpx

เมื่อสินทรัพย์ทุกอย่างจะกลายเป็น Token สรุปงาน Security Token Deep Dive จากทีมงาน Katinrun

เมื่อวันเสาร์ที่ 26 มกราคมที่ผ่านมาได้มีอีเว้น Security Token Deep Dive ที่จัดโดยทีมงาน Katinrun ที่ Bitcoin Center Thailand โดยภายในงานเป็นงาน Meet up และให้ความรู้เกี่ยวกับ Security Token ไม่ว่าจะในด้านแนวคิดหลักการ กระแสของโลก ไปรับชมได้เลยครับ
follow blockchain review: tinyurl.com/ycp9yeyt

เมื่อสินทรัพย์ทุกอย่างจะกลายเป็น Token สรุปงาน Security Token Deep Dive จากทีมงาน Katinrun

1 Feb 2019

Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!

เมื่อวันเสาร์ที่ 26 มกราคมที่ผ่านมาได้มีอีเว้นที่น่าสนใจมากในวงการ Blockchain นั้นคือ Security Token Deep Dive ที่จัดโดยทีมงาน Katinrun ที่ Bitcoin Center Thailand โดยภายในงานเป็นงาน Meet up และให้ความรู้เกี่ยวกับ Security Token ไม่ว่าจะในด้านแนวคิดหลักการ กระแสของโลก รวมไปถึงด้าน Tech ที่ค่อนข้าง Geek อย่างการพัฒนา Security Token โดยภายในงานนั้นมีผู้เข้าร่วมงานจากคนในวงการ Blockchain ในไทยอย่างคับคั่ง

ก่อนจะไปเล่าถึงรายละเอียดในตัวงานก็ขอกล่าวถึงทางผู้จัดเสียหน่อย Katinrun นั้นเป็นเป็นคอมมูนิตี้ด้าน Tech และ Developer ด้าน Blockchain ที่เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่ม Developer ที่สนใจด้าน Blockchain โดยมีจุดมุ่งหมายในการสร้างนักพัฒนาด้าน Blockchain ที่จะนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาประเทศต่อ และที่สำคัญผลผลิตจาก Product ของเขาเหล่านั้นจะสร้างระบบเศรษฐกิจให้กับประเทศ

ซึ่งต้องขอแทรกซักนิดหน่อยว่าปัจจุบันนั้นอาชีพ Developer นั้นเป็นที่ต้องการของตลาดมากๆ เรียกได้ว่าแทบจะไม่เคยเพียงพอต่อตลาดเลยด้วยซ้ำ ยิ่งเป็นสายงานด้าน Blockchain ที่เพิ่งเกิดใหม่ยิ่งทำให้ความต้องการสูงมาก มีบริษัทมากมายมาจีบเข้าไปทำงาน (แต่ไม่ค่อยมีสาวๆจีบในทีมส่วนใหญ่เลยโสดซะส่วนมาก) ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับด้านนี้ก็ยังมีไม่มาก การแลกเปลี่ยน และแชร์ความรู้กัน เร็วกว่าศึกษาคนเดียวแน่นอนหากใครสนใจก็ไปจอย Katinrun ได้

Katinrun นั้นเคยจัดงานที่เกี่ยวกับ Blockchain developer หลายครั้งรวมทั้งงาน Pizza Hackathon ในปีที่แล้วเช่นกันรวมถึง Meet up จำนวนนับไม่ถ้วน ซึ่งสามารถพูดได้ว่า Katinrun เป็น Developer ที่ขับเคลื่อนวงการ Blockchain ของประเทศไทย และทุกครั้งที่มีการจัดงานก็ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานมากมายทุกครั้งไป

Introduction to Security Token

สำหรับงาน Security Token Deep Dive คราวนี้จะเป็นหัวข้อเกี่ยวกับ Security Token หากใครยังไม่ทราบว่า Security Token คืออะไร คุณ แม็ก StockRadars หรือคุณ แม็ก Carboneum ได้มาอธิบายว่ามันคือ Token ที่ถูกรองรับโดย Security หรือหลักทรัพย์ต่างๆไม่ว่าจะหุ้นที่ดินหรือสินทรัพย์ที่มีการปันผลอื่นๆ ซึ่งในปีที่แล้วเราจะพบว่ามีผู้คนทั่วโลกมากมายที่แห่เข้าไป Raise fund ด้วยวิธีการ ICO ซึ่งสิ่งที่ได้มาคือ Utility Token ซึ่งเป็นเหมือนแค่ Token ที่ใช้ในแพลทฟอร์มเท่านั้น เนื่องจากว่าการระดมทุนแบบ Security นั้นมีปัญหาด้านกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับกฎหมายหลักทรัพย์ ทำให้ผู้คนหลีกเลี่ยงการระดมทุนแบบนี้ แต่ในปัจจุบันก็ได้มีกระแสที่พูดถึง Security Token มากขึ้นเรื่อยๆในการแก้ไขกฎหมายทำให้มันถูกพูดถึงอีกครั้ง

สิ่งที่น่าสนใจคือคุณ แม็ก นั้นเป็นผู้ที่เคยระดมทุนในโปรเจคต์ที่ชื่อว่า Carboneum จึงได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับความรวดเร็วของการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยี เมื่อก่อนเรามี IPO ในปีที่แล้วเรามี ICO ซึ่งมันเป็นที่นิยมอย่างบ้าคลั่งและกระแสมันก็ตกลงอย่างรวดเร็วในระยะเวลาแค่ 1 ปีซึ่งมันเร็วมาก แล้วในวันนี้เราก็มาพูดถึง STO หรือ Security Token offering แล้วซึ่งเราสามารถขายหลักทรัพย์ต่างๆไม่ว่าจะ หุ้น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ การเปลี่ยนผ่านของทุกๆสิ่งมันเร็วกว่าที่ทุกคนคิดเเละมันจะเร็วขึ้นเรื่อยๆ

“การทำ STO จะทำให้เรามีประชาธิปไตยในการลงทุน เพราะเราจะเข้าถึงการลงทุนง่ายขึ้นกว่าเดิม”

และการที่ Token กลายเป็นสินทรัพย์เช่นหุ้นซึ่งมันมีความน่าสนใจสำหรับตลาดทุนเดิมมากขึ้น เพราะมันลบล้างความไม่แน่นอนของ ICO ที่มักจะมีคำถามว่าสรุปแล้วเหรียญเราเอาไปทำอะไรได้ แต่เมื่อเป็น STO นั้นมันมีอะไรรับรองอย่างแน่นอนที่สำคัญที่สุดคือมันมีกฎหมายหลักทรัพย์คุ้มครองแน่นอน ใครจะทำอะไรไม่โปรงใสเหมือน ICO ที่เคยเกิดขึ้นไม่ได้ ซึ่งเรากำลังพูดถึงตลาดทุนเดิมที่มีเงินหมุนอยู่มหาศาลที่ใหญ่กว่าตลาดทุนเดิมมากๆ ทำให้มันมีความน่าสนใจมาก

 

Future of Security Token

และต่อไปก็จะเป็นหัวข้อจากทางคุณ Boat ซึ่งเป็น Co-founder จาก Six network โดยคุณ Boat ซึ่งปัญหาของ Utility token อย่าง Bitcoin หรือ Ethereum  ที่มีความผันผวนสูงซึ่งมันอาจจะดีในตลาดขาขึ้นแต่ในตลาดขาลงโอกาสขาดทุนก็สูง เช่นเดียวดับ ICO ที่มีโปรเจคมหาศาล ซึ่ง Utility token ส่วนนั้นไม่ได้เกิด Utility ได้ในทันทีที่ระดมทุนเสร็จ Token จึงเสื่อมมูลค่าในปี 2018 แต่ว่าโปรเจคที่มีราคาสูงกว่า ICO ก็ยังมีให้เห็นเช่นกัน เเละเมื่อในปีที่แล้ว Utility ของ Ethereum นั้นมาจากโปรเจคอย่าง Cryptokittie แต่ในปัจจุบันกลับกลายเป็นเกมคาสิโนล้วนและที่น่าสนใจคือเหรียญอย่าง EOS นั้นได้มีปริมาณการใช้งานที่แซง Ethereum ไปเรียบร้อยแล้วและแน่นอนว่ามันถูกเอาไปใช้กับเกมคาสิโนซึ่งมันทำให้เห็นว่าเทรนของความเป็น Decentralized นั้นตกลง แต่ผู้คนต้องการอะไรที่ใช้งานได้จริง

เมื่อมาถึง Security token กันบ้าง สิ่งที่น่าสนใจคือ Security Token นั้นดีต่อโลกของ Decentralized แค่ไหน เพราะ Security token นั้นต้องการตัวกลางจำนวนมากในการตรวจสอบรวมถึงขั้นตอนต่างๆ ทำให้ยังมีข้อน่ากังวลในจำนวนมากทำให้โปรเจคในปัจจุบันส่วนมากยังเป็น Sand box ซึ่งสิ่งที่น่ากังวลคือ Security token นั้นจะขาดความเป็น Decentralized ตราบใดที่ระบบ Audit ไม่ไปอยู่บน Blockchain

อีกสิ่งที่น่าสนใจคือแล้ว STO นั้นจะ Moon เหมือน ICO หรือเปล่าซึ่งถ้าเราไปเจาะตลาดทุนเดิมดูจริงๆที่มีเม็ดเงินมหาศาลนั้นเราจะพบว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการกำไรมหาศาลแต่กลับต้องการกำไรที่แน่นอน ทำให้ยังเป็นความท้าทายที่เรายังไม่รู้ว่า STO นั้นจะเป็นอย่างไรเมื่อเกิดขึ้นในปัจจุบัน Platform STO อยู่พอสมควรรวมถึง Exchange อย่าง Tzero ที่ระดมทุนไปได้พอสมควร ซึ่งสุดท้ายคุณโบ๊ทก็ฝากว่าเราก็ยังคงต้องดูกันต่อไปว่าเมื่อถึงยุคที่เทคโนโลยีและสินทรัพย์มารวมกันจะเป็นอย่างไรต่อ

 

Tech deep dive to Security Token part 1

สุดท้ายก็จะเป็นหัวข้อที่ค่อนข้าง Tech และ Deep มากจากทางคุณ Tot ผู้เป็น Tech lead ของ Katinrun โดยคุณ Tot ได้มาให้มุมมองของ Sucurity token ในเชิงของ Dev โดยคุณ Tot กล่าวว่าในไทยนั้นมีการ Regulate เหรียญอยู่ 3 ประเภทได้แก่ Utility,Security,Investment ซึ่ง Investment จะเป็นเหรียญที่ปันผลอย่างเดียวต่างกับ Security ต้องมีอะไรอ้างอิงซึ่งในแง่ของการเขียนโค้ดดิ่งจะมีการซับซ้อนกว่า Utility มาก

การเขียน Security Token นั้นจะมีฟังชั่นต่างๆที่แตกต่างจาก Utility เช่น Voting right หรือ Profit sharing ที่เมื่อผู้รับเหรียญได้เหรียญมาก็จะมีเหรียญที่มีคุณสมบัติดังกล่าว โดยทางคุณ Tot ก็ได้แนะนำเหรียญที่ชื่อว่า ST20 ที่อ้างอิงจาก ERC-20 โดยจะมีความแตกต่างเช่นการโอนเหรียญนั้นจะไม่สามารถโอนได้อย่างอิสระเหมือน Utility ไม่ได้ดูด้วยทั้งคู่นั้นมีสิทธิในการรับส่งหรือเปล่า

คุณ Tot ได้ยกตัวอย่างโปรเจคที่ชื่อ polymath เป็น case study โดยในตัวโปรเจคนั้นมีการทำ KYC ที่สามารถตรวจสอบ on chain ได้หรือทำ sell บน Smart contract โดยตัว Polymath จะสามารถสร้างโปรไฟล์ของเหรียญได้ ซึ่งอย่างที่เกริ่นไปในข้างต้นว่ามันมีความซับศ้อนกว่า Utility เช่นในการโอน เหรียญครั้งแรกนั้นก่อนโอนจะต้องมีการ KYC ผู้รับและจะมีคนตรวจสอบซึ่งในครั้งแรกอาจจะเป็นตลาดหลักทรัพย์ แต่หลังจากที่มีการโอนเหรียญไปแล้วอาจจต้องมี Third party ตัวอื่นมาตรวจสอบอีกทีที่อาจจะไม่ใช่ตลาดหลักทรัพย์

ในแง่ของการระดมทุนตัวโปรเจคก็มี module ที่จะกำหนดว่าถ้าแต่ละคน KYC ถึงขั้นไหนถึงจะลงเงินได้ที่ Cap เท่าไหร่รวมไปถึงรายละเอียดปลีกย่อยเช่น Discount การปันผลของเหรียญก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจอีกเช่นกันเพราะว่าเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราต้องปันผลเท่าไหร่ ทั้งๆที่คนถือเหรียญตลอดเวลา ใน Snart contract นั้นเราจะไม่สามารถสั่งโอนให้ทุกคนเพราะค่า Gas ไม่พอต้องให้คนถือเหรียญมาขอ สุดท้ายคือการ burn เหรียญนั้นจะต้องมีเงื่อนไขที่ถูกต้องถึงจะทำได้

และยังมีเรื่องอื่นๆเช่น Whitelist หรือ token lock อีกโดยสรุปแล้วคือการ implement security token นั้นมีความซับซ้อนกว่า Utility มากและมีมุมมองหลายอย่างที่ชาว Tech ต้องเรียนรู้เพิ่มเติมก่อนจะลงมือพัฒนา

 

Tech deep dive to Security Token part 2

หัวข้อถัดไปจะเป็นหัวข้อจากคุณ Dome คุณโดมได้เล่าว่าถึง Mega trend ของ Blockchain ในฝั่งยุโรปที่ในประเทศอย่างเอสโตเนียที่เป็นประเทศเล็กๆแต่กับมีความเติบโตด้าน Blockchain ในปี 2017 ที่ทุกคนกำลังพูดถึง ICO แต่ที่เอสโตเนียนั้นมีการพูดถึง STO เรียบร้อยแล้ว

คุณโดมได้พูดถึงข้อกังวลเกี่ยวกับการ Develop Blockchain รวมถึง STO ว่ามันตรวจสอบและ Audit ได้ค่อนข้างยากในแง่การพัฒนาของที่ใหม่ขนาดนี้เราไม่รู้เลยว่าจะเจออะไรบ้าง คุณโดมจึงได้แนะนำ Polomath เช่นเดียวกับคุณ Tot โดยกล่าวว่ามันเป็นแพลทฟอร์มที่มี Community support ค่อนข้างใช้ได้ การออกเหรียญใน Polymath นั้นทำได้ง่ายไใ่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตามเพียงแค่คุณมี Metamask โดยคุณโดมได้สาธิตวิธีใช้งาน Polymath ในการออกเหรียญอย่างละเอียด ไม่ว่าจะออกเหรียญตั้ง Advisor หาผู้ให้บริการ KYC การทำ Whitelist

คอนเซปต์ของ Polymath นั้นเป็น Service ที่คล้าย Portal ที่เหมาะสำหรับคนที่มีไอเดียเสร็จเรียบร้อยแล้วเพียงแค่ต้องการออกเหรียญ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็น Open source ที่ใครสามารถนำไปใช้ก็ได้ หากจะรับเหรียญตอนระดมทุนเป็นเหรียญอย่าง USDT หรือ Ethereum ก็มีรองรับหรือจะไปรับ fiat อย่างเงินบาทแบบ off chain ก็ได้และยังมี Service อีกมากที่ Polymath ทำได้

 

 

สรุป

ในขณะที่ทุกคนกำลัง FOMO กับ Blockchain STO ICO Cryptocurrency หนึ่งในสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ Developer นั้นเป็นกำลังสำคัญหลักที่เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของเทคโนโลยี ซึ่งก็ในความเป็นจริงไม่ต้องพูดถึงวงการ Blockchain ในปัจจุบัน Developer ก็มีไม่เพียงพอต่อความต้องการด้วยซ้ำ การจัดงาน Meet up ของ Katinrun ครั้งนี้แม้จะเป็นงานที่ไม่ใหญ่โตแต่ก็เป็นสิ่งสำคัญมากในการสร้าง Community และความรู้ในแง่ของเทคโนโลยี ซึ่งวงการ Blockchain ในไทยของเราก็ไม่ได้นิ่งดูดายโดยงานครั้งนี้มีผู้สนับสนุนเป็นจำนวนมาก ทาง Blockchain Review ก็หวังว่าทางทีม Katinrun จะมีงานดีๆแบบนี้อีกเรื่อยๆเช่นกัน

 

ปล. ทีมงาน Katinrun ส่วนใหญ่โสดและรวยมาก

ปปล. ทีมงานฝากบอกมาว่าน้องจอยสวยและโสดมาก

 

Article
Writer

Maybe You Like