วันนี้ (4 มี.ค.) เวลา 10.30 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายวุฒิไกร ผิวขาว ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากกลุ่มผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ร่วมลงทุนเงินบิตคอยน์ทั้งหมด 7 ราย เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.นิติพัฒน์ วุฒิบุณยสิทธิ์ ผกก.(สอบสวน) บก.ปอท. และ ร.ต.อ.คมสัน ทุติยานนท์ รอง สว.(สอบสวน)กก.2 บก.ปอท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อบริษัท แฮช บีเอ็กซ์ โกลบอล จำกัด (HashBX Globat Co.,Ltd) หลังผู้เสียหายถูกหลอกให้ซื้อแรงขุด Bitcoin จนเกิดความเสียหายจำนวนรวมทั้งสิ้น 52,434,260 บาท โดยนำเอกสารหลักฐานวิธีการโฆษณาและวิธีการร่วมลงทุน มามอบแก่เจ้าหน้าที่
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!นายวุฒิไกรกล่าวว่า เบื้องต้นมีผู้เสียหายแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกมี 7 ราย ร่วมลงทุนกับบริษัทดังกล่าวหลังจากพบเห็นโฆษณาผ่านเฟซบุ๊กมาตั้งแต่ปี 2560 และมีที่ตั้งอยู่จริงในย่านรัชดาภิเษก โดยเงื่อนไขการลงทุนมีลักษณะแบบตลอดชีพ ได้ผลตอบแทนร้อยละ 2-30 ต่อวัน แต่เมื่อลงทุนไปแล้วกลับพบว่าได้รับผลตอบแทนไม่สมเหตุสมผล เช่น ลงทุน 30 ล้านบาท แต่ได้กลับมาเพียง 3 หมื่นถึงหลักแสนบาทเท่านั้น นอกจากนี้ บริษัทดังกล่าวยังอ้างว่าการลงทุนดังกล่าวเป็นการลงทุนระยะยาว มีลักษณะเหมือนมรดกมอบให้แก่ทายาทที่สามารถทำการซื้อขายเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้นได้ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและลงทุนจนได้รับความเสียหายจำนวนมาก
นายวุฒิไกรกล่าวอีกว่า ต้องการให้พนักงานสอบสวนช่วยตรวจสอบว่าบริษัทดังกล่าวมีการประกอบกิจการตามที่โฆษณา และเป็นไปตามที่โฆษณาหรือไม่ แต่ที่ผ่านมาไม่มีการชี้แจง หรือไม่มีการนำส่งเอกสารหลักฐานใดๆ ที่แสดงความเป็นผู้ถือหุ้นดังกล่าวให้แก่ผู้เสียหายเลยแม้แต่น้อย และต่อจากนี้จะประสานผู้เสียหายกลุ่มที่ 2 อีก 9 รายเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป พร้อมประสานไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เพื่อตรวจสอบการประกอบกิจการของบริษัทดังกล่าวด้วย
เบื้องต้น พ.ต.อ.นิติพัฒน์ได้รับเรื่องร้องทุกข์ของผู้เสียหายไว้ลงในบันทึกประจำวัน พร้อมนำพยานหลักฐานที่ผู้เสียหายมารวบรวม และทำการตรวจสอบว่าเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายใดที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ก่อนนำรายงานผู้บังคับบัญชาเพื่อเสนอพิจารณาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทดังกล่าวได้โฆษณาชวนเชื่อผ่านทางเว็บไซต์ WWW.hashbx.com และมีการโฆษณาผ่านช่องทางในโซเชียลมีเดียต่างๆ ทั้งทางเฟซบุ๊ก แอปพลิเคชันไลน์ มีการถ่ายทอดสดบนแอปพลิเคชันไลน์ เป็นการลงทุนเพียงครั้งแรกและครั้งเดียว บรรดาผู้เสียหายเห็นว่าผลประโยชน์ดังกล่าวดีกว่าการเองเงินไปฝากธนาคาร และการลงทุนเป็นสัญญาตลอดชีวิต ซึ่งในช่วงระยะแรกๆ จะได้รับผลตอบแทนจริง แต่ต่อมาทางบริษัทฯ ไม่จ่ายเงินผลตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้
นอกจากนี้ ผู้เสียหายทั้งหมดได้ร่วมลงทุนแรงขุดบิตคอยน์มาตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. 2560 สะสมมาจนถึงเดือน ก.พ. 2561 ต่อมาทางบริษัทฯ มีการเปลี่ยนนโยบายเรื่อยมาทำให้ผู้เสียหายเริ่มรู้สึกว่ากำลังถูกบริษัทหลอกลวงให้ลงทุน เช่น ไม่สามารถโอนบิตคอยน์ออกจากเว็บไซต์ hashbx.com ได้ มีการจ่ายผลตอบแทนระยะแรกๆ ก่อนจะเลิกจ่ายในเวลาต่อมา แม้มูลค่าของแรงขุดบิตคอยน์ของทางบริษัทตามราคาที่ทางบริษัทตั้งไว้บนหน้าเว็บฯ จะมีมูลค่าปัจจุบัน (ณ วันที่ 10 ก.พ. 62) อยู่ที่ 660 CRD 2 ต่อแรงขุด แต่เป็นมูลค่าที่ไม่สามารถหาผู้ซื้อได้ ทั้งนี้ ผู้เสียหายเห็นว่าการโฆษณาของทางบริษัทฯ เกินความจริงเป็นการหลอกลวงโดยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ม.14 และความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน
ที่มา manageronline