อย่างที่ทราบกันดีว่า Bitcoin คือ Crypto Currency อันดับ 1 ซึ่งมีการเขียนไว้ชัดเจนว่า จำนวนของ Bitcoinจะมีไม่เกิน 21,000,000 BTC ซึ่ง ถ้าแปลเป็นอีกนัยหนึ่งคือ มันเป็นสิ่งที่มีจำนวนจำกัด
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!แล้ว เคยสงสัยไหมครับว่า ถ้ามันถูกนำมาใช้จริงเพื่อเป็นสกุลเงินหลักของโลกทั้งใบ (ไม่มีการเทียบค่ากับFiat Currency อย่างในปัจจุบันอีกแล้ว )จะเกิดอะไรขึ้นบ้างกับระบบเศรษฐกิจ
อันดับแรก
เนื่องจากความมีจำกัดของมัน จะก่อเกิดสิ่งที่เรียกว่า สภาวะเงินฝืด ทันที ลองคิดภาพว่า ท่านทำธุรกิจ ซึ่งธุรกิจต้องการผลกำไร ที่มาขึ้น และเติบโตต่อเนื่อง
แต่ในระบบเศรษฐกิจ กลับมีเงินจำกัดที่ 21ล้านหน่วย ไม่มีมาไปกว่านี้ นั่นแปลว่า สุดท้ายแล้ว จะไม่มีธุรกิจใดได้ผลกำไรเลย เนื่องจากทุกๆคนต้องการมีเงินที่มากขึ้น ในระบบที่มีเงินจำนวนจำกัด ธุรกิจจะได้รับเงินจำนวน 21ล้านหน่วย ต้องใช้จ่ายน้อยกว่ารายรับไปเรื่อยๆ จนสุดท้าย ลูกจ้างเริ่มมีรายได้ที่ลดลง ไม่มีกำลังซื้อ สุดท้ายธุรกิจจะต้องปิดตัวลง
อันดับที่สอง
เมื่อไม่มีคำว่าผลกำไร ก็จะไม่เกิดการลงทุนใดๆเกิดขึ้นเลย เพราะลงทุนอะไรไปสุดท้ายก็ไม่ก่อให้เกิดผลกำไร
อันดับสาม
ขาดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอย่างมาก เพราะความเป็น Decentralized ของมันเอง ทำให้มีมีหน่วยงานใดสามารถรับรองได้อย่างเต็มปากเต็มคำเพราะไม่สามารถควบคุมได้
อันดับที่สี่
จะก่อเกิดสภาวะที่มีคนรวยล้นฟ้า (แบบที่ยิ่งกว่าปัจจุบัน) และก่อเกิดสภาวะแร้นแค้นอย่างหนักได้
อันดับห้า
ซึ่งจะก่อให้เกิดการโจรกรรม การแฮค และ เกิดอาชญากรรมขึ้นเป็นวงกว้างในระบบเศรษฐกิจที่ฝืดแบบนี้
ในท้ายที่สุด ในระบบเงินฝืดที่รัฐบาลไม่สามารถอัดฉีดได้แบบนี้ และไม่มีการควบคุมแบบ Centralized เกิดขึ้นได้เลย จะเกิดการพังของระบบเศรษฐกิจแบบกู่ไม่กลับ หาทางแก้ไม่ได้เลย ถ้าหากยังใช้วิธีเดิม จนสุดท้ายแล้ว หาก Bitcoin ถูกใช้เป็นเงินสกุลหลักของโลก ก็จะต้องมีเงินสกุลใหม่ที่มาแก้ปัญหาตรงส่วนนี้อยู่ดี
Petchy Econ Vision
รูปภาพจาก Fortune.com