fbpx

ประเทศไทยพิสูจน์ว่า Crypto ถูกยอมรับได้เเม้จะอยู่ในระบอบเผด็จการ

ยาวไปอยากเลือกอ่าน แสดง ปรเทศไทยพิสูจน์ว่า Crypto ถูกยอมรับได้เเม้จะอยู่ในระบอบเผด็จการ ไม่มี crypto สำหรับธนาคาร ใหญ่เกินจะมองข้าม การสนับสนุนจากรัฐบาล การยอมรับอย่างรอบคอบ ปรเทศไทยพิสูจน์ว่า Crypto ถูกยอมรับได้เเม้จะอยู่ในระบอบเผด็จการ Thank you for reading this post, don't forget to subscribe! เดือนพฤษภาคมปี 2014 ประเทศไทยตกอยู่ภายใต้การควบคุมขอ

ประเทศไทยพิสูจน์ว่า Crypto ถูกยอมรับได้เเม้จะอยู่ในระบอบเผด็จการ

14 Dec 2018

ปรเทศไทยพิสูจน์ว่า Crypto ถูกยอมรับได้เเม้จะอยู่ในระบอบเผด็จการ

Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!

เดือนพฤษภาคมปี 2014 ประเทศไทยตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเผด็จการทหาร นำโดยกองทัพไทยทำการรัฐประหาร ควบคุมการใช้งานเเละเซ็นเซอร์อินเตอร์เน็ต ระงับการใช้รัฐธรรมนูญของอาณาจักร และปลดวุฒิสภา ผู้สังเกตุอย่างเงียบๆจะได้รับการอภัย นั่นเป็นเหตุผลว่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไทยเป็นประเทศที่เหมาะสำหรับการใช้และการพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยี

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เรื่องเกี่ยวกับ crypto ในประเทศไทย สามารถยืนยันสมมุติฐานข้างต้นได้ หลายเดือนก่อนได้มีการศึกษากรณี blockchain และ cryptocurrencies สามารถมีพื้นที่ของตัวเองภายใต้การปกครองแบบเผด็จการได้หรือไม่ ช้าเเต่ชัวร์ รัฐบาลทหารเปิดเผยว่า การดำเนินการตามแผนการที่จะทำให้ ICOs ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนเกิดขึ้นได้(crypto-exchange) และเพื่อบังคับใช้กฎระเบียบที่ทำให้ crypto ชอบด้วยกฎหมาย

 

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นพร้อมกันเมื่อรัฐบาลอนุญาติให้มีกิจกรรมทางการเมืองอีกครั้งสำหรับการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า เพิ่มความเป็นไปได้อย่างมาก crypto จะมีบทบาทสำคัญเพิ่มขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศไทย แม้การเมืองในประเทศยังเป็นประชาธิปไตยปลอมๆอยู่ เเต่มันก็เริ่มเปิดให้เห็นเสรีภาพเล็กน้อย

ไม่มี crypto สำหรับธนาคาร

 

มีเหตุการณ์มากมายเกี่ยวกับ crypto เกิดขึ้นในปีเดียว และไม่ต้องพิสูจน์อะไรเกี่ยวกับ Bitcoin มากไปกว่านี้ บางคนคงจะจินตนาการถึงอนาคตที่สดใสสำหรับ cryptocurrencies ในไทยเสียด้วยซ้ำ

 

เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางแห่งประเทศไทยได้ออกคำสั่งให้ธนาคารต่างๆประเทศ ขอให้พวกเขาหยุดการติดต่อกับบริษัทใดก็ตามที่ค้าขายหรือทำงานร่วมกับ cryptocurrency รอจนกว่าจะมีการผ่านร่างของกฎหมายในอนาคต

 

ความคืบหน้าในประเทศไทยได้เข้ามาส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับ crypto ที่ก่อนหน้านี้เคยมีท่าทีที่สับสนเกี่ยวกับ cryptocurrency ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกคำสั่งให้ธนาคารพาณิชย์ในเดือนกุมภาพันธ์ ขอให้าหยุดการให้บริการกับบริษัทที่ค้าขายหรือทำงานร่วมกับ cryptocurrency จนกว่าจะมีการผ่านกฎหมายในอนาคต

 

สองสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกรุงเทพได้กลายเป็นสถาบันการเงินแห่งแรกในประเทศที่ดำเนินการตามคำสั่งนี้และหยุดยั้งการทำธุรกรรมกับ TDAX

 

ไม่กี่วันต่อมา ธนาคารกรุงไทยได้ทำตามคำขอและประกาศว่ากำลังยุติการทำธุรกิจกับ TDAX หลังจากที่ประธาน นายสมชาย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลังได้รับคำสั่งอย่างเป็นทางการให้ทำเช่นนั้น เช่นเดียวกับธนาคารกรุงเทพ นี่เป็นข้อสังเกตที่น่ากลัวสำหรับอุตสาหกรรม cryptocurrency ในประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ TDAX ตัดสินใจยกเลิกการลงทะเบียน ICO ใหม่เนื่องจากกลัวว่า ICO จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการลงทุน (Initial Coin Offerings – ICOs)

ใหญ่เกินจะมองข้าม

 

เมื่อพิจารณาความเห็นของคุณสัจจพงษ์เรื่อง Bitcoin ในประเทศไทย คงมีเพียงไม่กี่คนที่คิดถึงอนาคตอันสดใสของ cryptocurrencies ในประเทศไทย อย่างไรก็ตามหน่วยงานกำกับดูแลของเขาเปิดเผยว่า crypto ไม่ได้ถูกแบนในทันทีแต่ต้องมั่นใจว่าผู้บริโภคและเศรษฐกิจไทยในวงกว้างได้รับความคุ้มครองจาก crypto นั้น

 

อย่างไรก็ตามเขากล่าวถึงหน่วยงานที่กำกับดูแลว่า crypto ในไทยไม่ได้ถูกห้าม เเต่จะเป็นการดำเนินการภายใต้บริบทที่ผู้บริโภคและเศรษฐกิจไทยในวงกว้างได้รับความคุ้มครอง

 

ในความเป็นจริง เดือนที่แล้วรัฐบาลได้เผยแพร่ร่างกฎระเบียบฉบับแรกที่หลายฝ่ายคาดหวังมากสำหรับจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล สิ่งที่ควรระวังมีดังนี้ ภาษีกำไรจากกำไรร้อยละ 15 และแพลตฟอร์ม crypto ทั้งหมดต้องลงทะเบียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูเหมือนพวกเขาพยายามทำให้ crypto เป็นส่วนสำคัญของภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจของประเทศไทย

 

รายงานนี้ได้รับการยืนยันในเดือนพฤษภาคม เมื่อมีผลบังคับใช้กฎระเบียบของก.ล.ต.ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่มีการซื้อขายหลักทรัพย์ ไม่เช่นนั้นต้องเสียค่าปรับอย่างน้อย 500,000 บาท (ประมาณ 15,700 เหรียญ)และ / หรือจำาคุกสูงสุดไม่เกินสองปี

 

ไม่แปลกใจที่รัฐบาลทหารไทยที่มีชื่อเสียงด้านการต่อต้านระบอบประชาธิปไตยและตอบคำถามไม่สุภาพเกี่ยวกับประเด็นนี้ แต่ก็ไม่เคยคำถามใด ๆ ของ cryptocurrency ถูกห้ามหรือหายไปอบ่างสิ้นเชิงในประเทศนี้ นั่นอาจเป็นเพราะ crypto ได้รับความนิยมมากเกินไปสำหรับรัฐบาลในการจำกัดการใช้งาน

 

ตัวอย่างเช่น วันที่ 17 กุมภาพันธ์ (ในช่วงที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกหนังสือเวียน) มี113 Bitcoins แลกเป็นเงินบาท บนบริษัท exchange ท้องถิ่น เมื่อเทียบกันแล้วมีเพียง 20 Bitcoins แลกเป็นสกุลเงินตุรกีใน exchange เดียวกันของสัปดาห์เดียวกัน เเละมีเพียง 12 รายที่ซื้อขายเงินเปโซอาร์เจนตินาเท่านั้น อ้างอิงจาก International Monetary Fund ซึ่งทั้งสองประเทศมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่กว่าประเทศไทยในลำดับที่ 17 และ 21 ตามลำดับ ขณะที่ไทยอยู่ในลำดับที่ 26

 

เป็นความจริงที่ว่าทั้งตุรกีและอาร์เจนตินาประสบกับภาวะเงินเฟ้อในปีนี้ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าตลาด crypto ในไทยใหญ่ขนาดไหน การรัฐประหารปี 2014 แสดงให้เห็นว่า crypto เป็นโอกาสใหญ่ที่รัฐบาลไทยละเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงต้นปีนี้ เพราะประเทศไทยไม่สามารถเพิ่ม GDP ให้ใกล้เคียงกับประเทศเวียดนามและฟิลิปปินส์

 

การสนับสนุนจากรัฐบาล

 

จึงไม่แปลกใจเลยที่เร็ว ๆ นี้ รัฐบาลได้พยายามที่จะพลักดัน cryptoในไทยอย่างมาก คณะกรรมการ ก.ล.ต.ไม่เพียงเเต่อนุญาติให้มีการ ICOs(ตราบเท่าที่อยู่ในประเทศไทย) เเต่พวกเขายืนยันว่าอีก1เดือน จะอนุญาติให้ 7 บริษัท รวมทั้ง TDAX สามารถดำเนินการแลกเปลี่ยนและ / หรือดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับ crypto ในประเทศได้

 

ในเวลาเดียวกัน  ก.ล.ต.ยังประกาศว่าได้ออกใบอนุญาติให้กับบริษัทสตาร์ทอัพของไทยจำนวนมากและบริษัทที่สนใจในการถือครอง ICO หรือเปิดการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิตอล ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยอนุญาตให้ธนาคารอื่นในประเทศ สามารถเปิดแผนกที่สามารถจัดการและการทำงานร่วมกับ cryptocurrency คล้ายกับทฤษฎี  “ring-fences” ที่ป้องกันความไม่แน่นอนจากเศรษฐกิจไทย

 

ควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านกฎหมายใหม่ ที่รัฐบาลไทยเองก็กำลังจับตาดู cryptocurrency และ blockchain.

 

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมิถุนายน วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าธนาคารกลางกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการออกระบบ cryptocurrency ของตัวเองเพื่อให้สามารถชำระหนี้ระหว่างธนาคารได้เร็วขึ้น

 

ในเดือนสิงหาคมธนาคารได้ประกาศว่าจะสร้าง CBDC โดยใช้แพลตฟอร์ม Corda ของ R3

สันติประภพให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่คาดว่าประเทศและสถาบันการเงินจะต้องใช้เวลา 3-5 ปีในการเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอล อาจดูเหมือนเป็นเวลานานสำหรับนักลงทุนบางคนที่ใจร้อน แต่เมื่อทราบว่าคำแถลงดังกล่าวบ่งชี้ว่าประเทศไทยมีเจตนาที่จะใช้ cryptocurrency ในระยะยาว ถือเป็นจุดยืนแย่างดีว่า cryptocurrency จะมีที่ยืนในประเทศเเถบเอเชีย

 

ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยได้ออกมากล่าวว่าจะเริ่มใช้ระบบ blockchain เอกชนเพื่อลงทะเบียนพันธบัตรในปลายปีนี้ และกำลังมองหาการใช้เหรียญยูทิลิตี้ของตัวเองเพื่อสนับสนุนระบบ และ ในเดือนตุลาคมกระทรวงพาณิชย์ได้วางแผนที่จะทดลองใช้เทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทในด้านการจัดการลิขสิทธิ์ลิขสิทธิ์การเกษตรและการค้าอีกด้วย

 

การยอมรับอย่างรอบคอบ

 

เป็นการเปิดโอกาศในประเทศไทยสำหรับโอกาศทางเศรษฐกิจที่มีให้ crypto  อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีการเปิดเสรีบางส่วนในประเทศที่ควบคุมโดยทหาร อุตสาหกรรม crypto ควรอยู่ภายใต้การดูแล เเต่รัฐบาลก็ยังไม่ทำอะไรมากมายนอกจากการเฝ้าดูอย่างระมัดระวัง

 

ย้อนกลับไปในเดือนตุลาคม สำนักงาน ก.ล.ต. ออกคำเตือนเกี่ยวกับ token และ ICO จำนวน 9 ตัวที่ไม่ได้ลงทะเบียน ว่าอาจนำไปสู่ความบเสี่ยงทางการเงินของบุคคลทั่วไปที่อาจตกเป็นเหยื่อ คำเตือนนี้บอกเป็นนัยว่ารัฐบาลไทยอาจหึงหวงอำนาจเเละระวังสิ่งใดก็ตามที่จะทำลายอำนาจเเละการควบคุมของพวกเขา

 

ในทำนองเดียวกัน วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนว่ารัฐบาลต้องการที่จะควบคุม cryptocurrency ให้รัดกุมมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ crypto ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดโดยอาชญากรและการฟอกเงิน

 

เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการก่ออาชญากรรมมากที่สุดเป็นอันดับที่ 13 ในโลก (ตามฐานข้อมูลการก่ออาชญากรรมทั่วโลก) มันดูสมเหตุสมผลในการตกเป็นเป้าหมาย แต่มีความความกังวลจากรัฐบาลว่ามันจะเกิดขึ้น ทางรัฐบาลจึงมีมาตรการที่เกี่ยวข้องกับ crypto ที่ถูกต้องมากขึ้นเพื่อระงับการกระทำที่ผิดกฎหมาย

 

หลังจากช่วงเปลี่ยนผ่านกษัตริย์ของไทย อาจทำให้เกิดสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อ crypto ซึ่งพวกมันถูกขายมากกว่าเก็บเอาไว้ อย่างไรก็ตามมีแผนการที่จะจัดใการเลือกตั้งในปีหน้าเช่นเดียวกับการดำเนินงานที่ช้าและมั่นคงของรัฐบาลไทย แต่อย่างน้อยพวกเขาให้ความมั่นใจมากขึ้นสำหรับชุมชน crypto ในการทำธุรกิจในประเทศไทยตราบเท่าที่พวกเขายึดมั่นในกฎระเบียบ

 

Article Blockchain News
,
Writer

Maybe You Like