สวัสดีครับวันนี้ทางแอดมินจะมาแนะนำหนึ่งในโปรเจคต์ที่น่าสนใจกันครับ ซึ่งโปรเจคนี้เป็นโปรเจคต์ที่ทางแอดมินได้ไปพบปะพูดคุยมาตอนที่แอดมินไปร่วมงาน Asia blockchain summit ที่ไทเปมา โดยโปรเจคต์นี้มีชื่อว่า Nervos ซึ่งสารภาพตามตรงว่าในตอนแรกแอดมินก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก แต่พอทำความรู้จักกับทีมและแนวคิดก็รู้สึกว่ามีความน่าสนใจมากโดยเฉพาะทีมของ Nervos นั้นเป็นกลุ่มคนที่มีประสบการณ์ที่ทำงานกับ Ethereum โดยตรงและยังมีประสบการณ์ในการพัฒนาระบบ Blockchain ให้กับรัฐบาลจีน
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!แนวคิดของ Nervos
คอนเซปต์ของ Nervos นั้นถูกเริ่มต้นจาก Jan Xie ที่เป็น chief architect ที่เคยทำงานกับ Vitalik ใน Casper project โดย Jan ซึ่งตัว Jan ได้เห็นปัญหามากมายในการพัฒนาระบบ Blockchain เช่น Blockchain นั้นเป็นระบบที่ต้องมีการ Trade off ที่ไม่สามารถทำให้สามารถสร้าง Blockchain ที่เร็ว มีความเป็น Decentralized และมีความปลอดภัยที่สูงได้พร้อมๆกัน ในปัจจุบันก็มีโปรเจคต์ Blockchain มากมายที่ลองใช้ระบบ Consensus ใหม่ๆแต่ก็ล้วนแล้วยังไม่ประสบผลสำเร็จ ทำให้ระบบ Layer2 อย่าง Plasma ของ Ethereum นั้นดูจะเป็นความหวัง แต่อย่างไรก็ตาม Jan พบว่าการจะสร้าง Layer2 ให้ตอบโจทย์นั้นจะต้องทีการแก้ไข Crypto Economic Model เสียก่อน
Ethereum และ Bitcoin กับ Economic ที่ไม่สมบูรณ์แบบ
Bitcoin นั้นถูกขึ้นชื่อในเรื่อง Store of value ที่ขึ้นชื่ออย่างวมากอย่างไรก็ตาม Economic Model ของ Bitcoin นั้นกลับไม่ได้ตอบโจทย์คนทุกกลุ่ม โครงสร้างของ Bitcoin นั้นจะทำให้ผู้คนนั้นนิยมที่จะถือ Bitcoin เพื่อเก็บรักษามูลค่ามากกว่าการใช้งานและนั้นหมายความว่าหากมีคนโอน Bitcoin น้อยก็จะทำให้ Miner ได้รับเงินที่น้อยลงมาและส่งผลทำให้ Security ของ Bitcoin นั้นลดลง
ในส่วนของ Ethereum นั้นตัวของ Ethereum นั้นไม่ใช่แม้แต่ Store of value ด้วยซ้ำมันเป็นถูกผลิตอย่างไม่มีจำนวนจำกัดทำให้ไม่ตอบโจทย์แก่ผู้ที่ถือ Ethereum ต่อให้ราคา Ethereum เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าก็ไม่ได้ทำให้ความเป็น Decentralized Computing ของ Ethereum เพิ่มขึ้นแต่อย่างใดเพราะมันถูกออกแบบมาเป็นน้ำมันที่ผลิตได้เรื่อยๆ
ยิ่งในกรณี Layer2 ของ Bitcoin หรือ Ethereum ที่จะทำให้เกิดปัญหา Free rider problem ที่ถ้าผู้คนใช้ Layer2 มากๆก็จะทำให้ผู้คนไม่อยากใช้ Layer1 ที่เป็น Blockchain เพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับ miner ทำให้ Security นั้นลดลง
Ethereum กับปัญหากับภาคธุรกิจ
อย่างที่เรารู้กันว่าทุกวันนี้ Ethereum เป็น Platfrom ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในการสร้าง Smart contract แต่อย่างไรก็ตามเรากลับพบว่า Ethereum นั้นกลับมีปัญหามากมายในการนำไปใช้ในองค์กรและธุรกิจต่างๆ
อย่างแรกคือการใช้งาน Ethereum สำหรับภาคธุรกิจนั้นธุรกิจจะต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างระบบให้เข้ากับ Ethereum ซึ่งในระบบธุรกิจแล้วมันเป็นสิ่งที่ยากลำบากมาก อย่างที่สองคือการที่ Ethereum นั้นเป็น Public Blockchain ที่ช้อมูลทุกอย่างจะต้องเป็นสารธารณซึ่งเป็นไปไม่ได้สำหรับภาคธุรกิจที่จะใส่ข้อมูลบางอย่างที่เป็นความลับ
นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไม Private Blockchain อย่าง Hyperledger ถึงเป็นที่นิยมสำหรับธุรกิจแต่การใช้ Private blockchain ก็ไม่ต่างอะไรกับการใช้ระบบการเก็บฐานข้อมูลที่ไม่ได้นำจุดเด่นเรื่องความโปร่งใสออกมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่
Nervos Common Knowledge base
วิธีแก้ปัญหาของ Nervos คือการสร้าง Layer 1 และ Layer 2 คล้ายกับ Ethereum โดยมีลักษณะเป็นระบบ Proof of Work เหมือนกับ Ethereum (ปัจจุบันยังไม่มีการระบุว่าเป็นอัลกอริทึ่มอะไร) แต่สิ่งที่แตกต่างจาก Ethereum คือปกติแล้ว Ethereum จะเป็นการ Deploy Contract ลงไปตรงๆทั้งชุดโค้ดเลย แต่ระบบของ Nervos จะเป็นการเก็บเพียงแค่ State ใน Layer 1 และให้ State นั้นไปทำงานกับ Layer 2 อีกทีด้วยวิธีนี้จะทำให้ข้อมูลใดๆก็ตามที่อยู่บน Layer 1 มีความปลอดภัยสูงมาก และหากผู้ใช้งานต้องการสร้างระบบที่มีความรวดเร็วก็สามารถทำได้ใน Layer 2
Consensus
Consensus ของ Nervos นั้นเป็นแบบ Proof of work ที่คล้ายกับ Bitcoin และ Ethereum ซึ่งจุดที่ Nervos อ้างว่ามีข้อเด่นกว่า Ethereum คือปัจจุบัน Etherum นั้นมี Block time ที่ค่อนข้างน้อยอยู่ที่ 13-14 วินาทีซึ่งเป็นสาเหตุให้ Blockchain ของ Ethereum แม้จะเร็วแต่ก็มีโอกาสเกิด Block orphan สูงมากทำให้เกิดความติดขัด ซึ่งทาง Nervos จะแก้ไขปัญหานี้โดย
- สร้างระบบ two-step transaction verify โดยการเพิ่ม Uncle blockheader ไปในระบบ
- มีการปรับค่า difficulty ของ Block ตามสภาพการของเน็ตเวิร์ค
- มีการปรับค่า difficulty โดยอิงจาก Block ทั้งหมดเพื่อป้องกันการเกิด selfish mining
CKB Crypto Economic
เหรียญ CKB นั้นจะทำหน้าที่เป็นเหมือนค่าในการซื้อพื้นที่บน Layer 1 ของ Nervos และเป็นค่าเช่าพื้นที่เช่นกันด้วยวิธีนี้จะทำระบบป้องกันปัญหาเรื่อง Free rider problem ได้เพราะฉะนั้นมูลค่าของระบบ Nervos จะไม่ได้ขึ้นอยู่กับการทำธุรกรรมต่างๆแต่ขึ้นกับจำนวน Asset ที่ Developer ทำการซื้อและเช่าเพื้นที่และเมื่อมีคนใช้งาน Nervos มากๆเงินที่ถูกจ่ายให้กับ Miner ก็จะมากขึ้นและทำให้ Security ของระบบดีขึ้นในขณะเดียวกันแม้ User กับ Develop อาจจะต้องจ่ายเงินที่แพงขึ้นจากราคา CKB ที่เพิ่มขึ้นแต่มันก็จะเป็นราคาที่ต้องจ่ายจากการที่ Security ของ CKB เพิ่มขึ้น ทำให้ Nervos ถูกเรียกว่า Store of asset เพราะยิ่งมีคนเก็บ State บน Nervos มากเท่าไหร่มูลค่าของ CKB ก็จะเพิ่มขึ้น
ทีมงาน
ทีมงานของ Nervos จะเรียกว่ายอดมนุษย์ก็ได้เพราะถ้าเราดูจากประสบการณ์ของทีมทั้งทีมแล้วแต่ละคนถ้าไม่ใช่นักวิจัยก็เป็นคนที่มีประสบการณ์กับโปรเจคต์ใหญ่ๆ อย่าง Ethereum,Imtoken,Spark Pool,Gita,Cryptape และยังไม่รวมผลงานในการพัฒนาระบบ Blockchain ให้กับรัฐบาลจีนอีกด้วยและยังมี polychain ,sequoia และ Huobi เป็น Partner อีกด้วย
สรุป
Nervos นั้นเป็นหนึ่งใน Project Infrastruce ที่ค่อนข้างจะมีอยู่เกร่อวงการเสียหน่อย ซึ่งอาจจะฟังดูน่าเบื่อแต่สิ่งที่น่าสนใจคือการที่ Nervos กลับใช้ Proof of work ในขณะที่โปรเจคต์อื่นๆหนีไปใช้ Consensus ประเถทอื่นๆอย่าง Delegated proof of stake และการ Re-model ของ Crypto Economic ใน Layer 1 ให้ support Layer 2 เพื่อให้เหมาะสำหรับธุรกิจก็เป็นแนวคิดที่ยังไม่มีใครคิดมาก่อน และด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์และมีชื่อเสียงมากอาจจะทำให้ Nervos เป็นเหมือน Cardano หรือ Cosmos ตัวต่อไป แม้ปัจจุบัน Nervos ยังอยู่ในช่วงที่ยังไม่ Lunch mainnet แต่หากผลงานออกมาไม่มีปัญหาอะไรที่ร้ายแรง Nervos น่าจะไปติด Top 30 ของ Coinmarketcap ได้ไม่ยากสำหรับใครที่สนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ nervos.org