วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับกระเป๋าเงินดิจิทัลที่มีชื่อว่า CoolwalletS ซึ่งเป็นกระเป๋า Hardware Wallet ที่บางที่สุดในโลก ซึ่ง Hardware Wallet นั้นเป็นหนึ่งในสิ่งที่คนที่คิดจะลงทุนใน Cryptocurrency ไม่ว่าจะเทรดถือยาวหรือเพื่อการลงทุนก็คสรจะมีไว้ครองครองเพราะมันคือการเก็บรักษา Cryptocurrency แบบที่คุณเป็นเจ้าของ Cryptocurrency เหล่านั้นและเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในปัจจุบันว่ามีความปลอดภัยมากที่สุดในปัจจุบัน
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!
Hardware Wallet
Hardware Wallet นั้นเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบายโดยที่ยังได้รับความปลอดภัยสูงสุดเท่าที่ทำได้ Hardware Wallet นั้นมีลักษณะเหมือนกับ Flash Drive ตัวหนึ่งโดยผู้ใช้งานต้องเชื่อมต่อมันเข้ากับคอมพิวเตอร์ขณะใช้งาน โดยมี Software ที่ใช้งานสะดวกและมีหลากหลายเหรียญให้เลือก หลักการของ Hardware Wallet คือ Private Key จะถูกเก็บไว้ในตัว Hardware ในรูปแบบที่เข้ารหัสไว้โดยผู้ผลิตนั้นอ้างว่าจะไม่มีมัลแวร์ตัวใดที่สามารถ Hack Private Key ได้ขณะที่มันเชื่อมต่อกับอินเทอร์เนตหรือ Application ใดๆเนื่องจากการ Hardware นั้นจะส่ง Sign Message ที่ถูกเข้ารหัสสำหรับการโอนเงินเท่านั้นโดยข้อมูลของ Private Key นั้นไม่ได้เข้าสู่คอมพิวเตอร์ของเราด้วยซ้ำ
CoolWalletS กระเป๋า Hardware Wallet ที่บางที่สุดในโลกกับรูปแบบบัตรเครดิต
ลักษณะภายนอกของ CoolwalletS นั้นไม่ต่างจากบัตรเครดิตทั่วไปโดยมีความบางเพียงแค่ 0.8 mm เท่านั้น โดยวัสดุนั้นเป็นพลาสติกที่ค่อนข้างแข็งเคลือบด้าน โดยด้านหนึ่งนั้นเป็นลายโลโก้ของ CoolWalletS ตามด้วยสโลแกนด้านล่างที่เขียนว่า CoolWalletS The Ultimate Cryptocurrency Safe โดยปกติ Hardware Wallet ทั่วไปนั้นจะมีลักษณะคล้าย Flash Drive แต่ CoolWallets
กลับออกแบบให้เป็นลักษณะของการ์ด โดยจุดเด่นสำคัญที่แตกต่างจาก Hardware Wallet ทั่วไปคือการที่ CoolWalletS นั้นสามารถเชื่อมกับ App ในโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้ได้ผ่าน Bluetooth ได้ในทางกลับกัน Hardware Wallet อย่าง Trezor นั้นต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ (มีรุ่น Bluetooth แต่ราคาค่อนข้างสูง) จึงสะดวกและง่ายต่อการใช้งานนอกสถานที่ที่ไม่มีคอมพิวเตอร์
ด้านหนึ่งของตัวการ์ดจะมีหน้าต่างที่สามารถแสดงข้อมูลของ Cryptocurrency ที่เรามีคร่าวๆได้ในเหรียญหลักต่างๆอย่าง BTC, ETH, LTC โดยมีปุ่มที่เป็นโลหะอยู่หนึ่งปุ่มโดยการกดแต่ละครั้งจะเป็นการเปลี่ยนเหรียญที่มี
สิ่งที่อยู่ภายในแพ็คเกจ
แพ็คเกจของ CoolWallet S จะถูกห่อและปิดผนึกด้วยสติกเกอร์ป้องกันการงัดแงะ ถ้าใครได้แบบที่มีรอยงัดแงะนี่ให้ระมัดระวังไว้เลยครับ หลังจากนั้นจึงค่อยทำการแกะและเปิดกล่องบรรจุออก
ตรวจสอบสิ่งที่อยู่ภายในแพ็คเกจ และตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีรายการสิ่งของทั้งหมดดังต่อไปนี้:
- CoolWallet S
- USB Charger / Cable (อย่าทำหายเพราะไม่น่าหาซื้อตามท้องตลาดได้)
- Recovery Card (สำหรับกรณีทำ Wallet หาย)
- CoolWallet S Sticker
สิ่งสำคัญที่คุณไม่ควรทำหายเลยคือ Recovery Card และหลังจากเปิดการใช้งานครั้งแรกแล้วคุณต้องจด Recovery Key แล้วอย่าให้ใครเห็นโดยเด็ดขาดและอย่าส่งให้ใคร เพราะใครที่ได้ Recovery key นี้ไปก็ไม่ต่างกับการที่เขาได้เงินของคุณไปทั้งหมด อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรทำหายก็คือที่ชาร์ท CoolWalletS เพราะมันถูกออกแบบมาสำหรับการชาร์ท CoolWalletS นี้เท่านั้น
การใช้งาน
เมื่อคุณเปิดใช้งาน CoolWalletS ครั้งแรกคุณต้องเชื่อมต่อมันเข้ากับ Mobile App และสร้าง Recovery Key ที่สามารถเลือกได้ว่าจะมีความยาวตั้งแต่ 16-24 คำ (ยิ่งยาวยิ่งปลอดภัย) หลังจากเปิดการใช้งานคุณก็ใช้งานมันเหมือน Mobile Wallet ทั่วไปแต่ในตอนที่คุณจะทำการโอนออกคุณจะต้องเชื่อมต่อ bluetooth กับ CoolWalletS ไว้และกดปุ่มที่การ์ดก่อนที่จะสามารถโอนออกได้
ส่วนที่สำคัญนั้นคือ CoolwalletS นั้นเป็น Hardware Wallet ที่ให้ความรู้สึกสะดวกสบายเหมือน Mobile Wallet เพราะปกติ Hardware Wallet ส่วนใหญ่นั้นผู้ใช้จะต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ทำให้ไม่สะดวกเท่าที่ควร แต่พอเป็น CoolwalletS ที่เชื่อมต่อกับมือถือกลับใช้งานง่ายเพราะมีกล้องที่สามารถ Scan Qr Code หากเราจะจ่ายเงินให้ร้านค้าหรือโอนเงินให้เพื่อนก็ไม่จำเป็นต้องหยิบคอมพิวเตอร์ขึ้นมาเพื่อโอนเงิน นอกจากนี้รูปร่างของมันแทนที่จะเป็น USB กลับกลายเป็นการ์ดที่สามารถพกพาได้ง่ายในกระเป๋าเงิน
เหรียญที่บัตรสามารถรองรับ
เหรียญที่รองรับโดย CoolwalletS มีดังนี้ Coins ได้แก่ BTC / BCH / XRP / ETH / LTC/ ZEN / ICX / Omni USDT / BNB BEP2 / XLM / KAG / KAU
Tokens ได้แก่ TUSD / WETH / JOY / ZPR / BNB ERC20 / CTXC / USDC / BDG / FMF / ATUM / SAI / MTL / GUSD / ZRX / USDT ERC20 / XYO / MITH / CWTT / IRC / GTST / WENI / ZMTK / BUSD / OKB / DAI & All ERC20 Tokens
ความปลอดภัย
สำหรับใครที่ห่วงเรื่องความปลอดภัยก็ไม่ต้องห่วงเพราะ Private key ถูกเข้ารหัสแบบ CC EAL5+ certified S.E. Chipset ซึ่งอยู่ในระดับ Military-grade ที่ใช้ในกองทัพสหรัฐ ส่วน Bluetooth นั้นข้อมูลถูกเชื่อมต่อนั้นถูกเข้ารหัสแบบ AES256 Encryption โดยข้อมูลที่ถูกส่งออกมานั้นเป็น sign message ที่ไม่มีข้อมูล Private key จึงไม่ต้องห่วงเรื่องการรั่วของข้อมูล
สรุป
หลังจากใช้ CoolWalletS มาซักพักโดยส่วนตัวค่อนข้างพอใจมาก เดิมทีผู้เขียนเคยใช้ Trezor มาก่อนแม้จะได้ความปลอดภัยที่ดีแต่ก็มักมีปัญหาในการพกพาหรือจะโอน Cryptocurrency ให้คนอื่นเพราะไม่สามารถใช้กล้องมือถือในการ ScanQr Code และต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ทุกครั้ง ในส่วนราคาก็ถูกกว่า Trezor อยู่มาก จุดเดียวที่อาจจะรู้สึกขัดใจคือถ้าใช้บ่อยอาจจะต้องเอามาชาร์ทบ้างและที่ชาร์ทก็เป็นแบบเฉพาะที่ถ้าทำหายอาจจะหาใหม่ลำบาก ถ้าไม่ได้ใช้งานแบตก็สามารถอยู่ได้ค่อนข้างนานเช่นกัน
เปรียบเทียบราคา Hardware Wallet อื่นๆ
การเชื่อมต่อ |
ราคา |
|
Ledger Nano S |
MicroUSB Mobile, computer |
3490 THB |
Ledger Nano X |
Bluetooth Mobile |
10900 THB |
Trezor |
MicroUSB Mobile, computer |
3790 THB |
Trezor Model T |
USB-C Mobile, computer |
7950 THB |
CoolWalletS |
Bluetooth Mobile |
4990 THB (ใช้โค้ด CRYPBR ลดเหลือ 3490 บาท) |
สำหรับคนที่สนใจตอนนี้มีโค้ด CRYPBR รับส่วนลดทันที 1500 บาท! จาก 4990 บาทเหลือ 3490 บาทเท่านั้น
ซื้อผ่าน Shopee ได้ตามลิ้งค์นี้ >> CoolWalletS <<