อาหารทะเลกลายมาเป็นสิ่งที่นิยมกันอย่างแพร่หลายของคนทั่วไปมากขึ้น สังเกตุได้จากการเพิ่มขึ้นของร้านอาหารซีฟู้ด การนิยมบริโภคปลาดิบมากขึ้น การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมประมง ซึ่งต้องบอกก่อนว่า ธุรกิจอาหารทะเลเป็นธุรกิจที่มีมาเนิ่นนานแล้ว โดยพบว่า 12%ของมนุษย์บนโลกประกอบอาชีพประมงทะเล และคนก็เริ่มรับประทานอาหารทะเลกันมากขึ้นตลอด 50 ปีที่ผ่านมา แถมอาหารทะเลนั้นยังเป็นสินค้าส่งออกที่ทำรายได้ให้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว
แต่ใครจะรู้บ้างว่าเบื้องหลังของอาหารทะเลที่เราบริโภคนั้นเต็มไปด้วยปัญหาต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็น การบริโภคอย่างสิ้นเปลืองของมนุษย์ที่ทำให้อาหารทะเลเหล่านั้นเริ่มไม่เพียงพอต่อความต้องการ การค้าขายอาหารทะเลอย่างผิดกฏหมายเช่นลักลอบจับปลา หรือละเมิดเขตในการหาปลาเป็นต้น
Note: สำหรับใครที่อยากเข้าใจปัญหาในวงการอาหารทะเลมาขึ้นสามารถดูคลิปนี้ได้ครับ
FishCoin ทำอะไร?
ต้องบอกก่อนว่า FishCoin เป็นการร่วมมือของเหล่านักธุรกิจที่มีความต้องการจะจัดระเบียบ seafood supply chain และทำลายปัญหาที่ทำให้ธุรกิจวงการอาหารทะเลล่าช้าและขาดความโปร่งใส ซึ่งทีมงาน FishCoin ได้พบว่าจริงๆแล้วปัญหาในวงการอาหารทะเลเนี่ยมันซับซ้อนและวุ่นวายมากซึ่งเริ่มมาจาก 4 ปัญหาหลักๆ
- ความละเอียดของข้อมูลยังไม่เข้มงวดพอ ในที่นี้หมายถึง การที่เราจะส่งผ่านอาหารทะเลชนิดหนึ่ง เราจำเป็นต้องรู้ว่าอาหารทะเลชนิดนี้ถูกเก็บเกี่ยวจากใคร องค์กรใด ด้วยอุปกรณ์อะไร เก็บที่ไหน เวลาเมื่อไหร่ สายพันธุ์ของอาหารทะเลชนิดนี้ รวมไปจนถึงข้อมูลจำพวกโภชนาการต่างๆ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเลือกสินค้า และยังส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้บริโภคด้วย ซึ่งในฐานะผู้บริโภครายย่อยเราอาจจะไม่ได้สนใจเกี่ยวกับข้อมูลตรงนี้เท่าไหร่ แต่ในระดับ Supply chain มันจะกลายเป็นข้อมูลที่สำคัญมากเพราะมาตรฐานของอาหารทะเลเป็นเรื่องสำคัญในเชิงธุรกิจ
- พ่อค้าคนกลางที่กำหนดขอบเขตของการค้าขาย พ่อค้าแม่ค้าที่จับปลาได้ส่วนใหญ่จะนำปลาเหล่านั้นส่งขายออกสู่ตลาดผ่านเหล่าพ่อค้าคนกลาง แต่ปัญหาของมันอยู่ที่ พ่อค้าคนกลางเนี่ยก็กำหนดเงื่อนไขต่างๆ มากมายเพื่อที่จะให้คนจับปลาเหล่านั้นขายปลาให้กับพวกเขาในราคาที่ถูกเพื่อที่เขาจะสามารถนำไปขายต่อได้โดยได้กำไรมาก เงื่อนไขนั้นจะเป็นการบีบบังคับให้คนจับปลาจำต้องขายปลาให้แก่พ่อค้าคนกลางอย่างไม่มีทางเลือก เพราะตัวผู้จับปลาเองก็ไม่ได้มีคอนเนคชั่นกับผู้บริโภคหรือบุคคลอื่นๆเหมือนพ่อค้าคนกลาง อีกเหตุผลคือชาวประมงรายย่อยนั้นไม่สามารถขายให้กับตลาดใหญ่เช่นบริษัทที่มีการตรวจสอบคุณภาพปลาหรือรัฐบาล เพราะหน่วยงานเหล่านี้ต้องการข้อมูลของสินค้าเช่น ปลาตัวนี้จับที่น่านน้ำไหน ขนาดเท่าไหร่ เมื่อไหร่ ซึ่งชาวประมงรายย่อยนั้นไม่ได้มีการเก็บข้อมูลไว้จึงจำเป็นต้องขายให้พ่อค้าคนกลางไปจัดการนั่นเอง
- ธุรกิจอาหารทะเลเนี่ยมันแบ่งออกเป็นหลายภาคส่วนหลายทอดมาก กว่าที่ผู้บริโภคอย่างเราจะได้กินแซลม่อนตัวนึง จะต้องผ่านกระบวนการอิมพอร์ทการส่งต่อจากตลาดสู่ตลาด ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางอีก พูดง่ายๆคือเราแทบจะไม่สามารถบอกได้เลยว่าไอ้แซลม่อนที่อยู่กับเราเนี่ยมันผ่านใครมาบ้าง และบางครั้งก็มีการติดต่อกันเองผ่านรายย่อยเช่นบางโรมแรมอาจจะซื้อปลาจากชาวประมงโดยตรงและนำไปขายให้กับลูกค้าโดยก็ไม่รู้ว่าปลาที่ขายนั้นได้คุณภาพหรือเปล่า
- มันคือความไม่สมมาตรของข้อมูล ปัญหาข้างต้นทั้ง 3 ได้หลอมรวมกลายเป็นปัญหาข้อนี้นั่นเอง ผู้บริโภคที่ได้ข้อมูลจากการซื้ออาหารทะเลไม่ครบ หรือ การปิดบังข้อมูลบางอย่างของผู้ผลิต ล้วนแต่เป็นปัญหาที่ควรจะทำให้มันหมดไปในปัจจุบันนี้ ธุรกิจอาหารทะเลพวกนี้จึงควรที่จะถูกตรวจสอบ รับรอง และควบคุมด้วยนโยบายที่เหมาะสมเพื่อที่เราจะรับประกันได้ว่ามันไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฏหมายเช่นแรงงานเถื่อนหรือรวมไปถึงการกำหนดปริมาณคาร์บอนที่ปล่อยออกมา
FishCoin’s solutions
หลังจากที่บริษัทค้นพบปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว เค้าทำยังไงต่อหล่ะ? FishCoin ได้นำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาประยุกต์ใช้กับธุรกิจอาหารทะเลนี้เพื่อที่จะกำจัดความหละหลวมต่างๆที่เกิดขึ้น เพราะ blockchain จะช่วยอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบการโอนถ่ายข้อมูลของสินค้าได้ง่าย อีกทั้งบริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับธุรกิจอาหารทะเลเป็นทุนเดิมอยู่แล้วซึ่งได้แก่
- mFish เป็นแอพพลิเคชั่นที่จะระบุถึงข้อมูลต่างๆในการประกอบธุรกิจอาหารทะเลเช่น การเก็บสต็อคอาหาร การจัดการอาหารทะเล สภาพอากาศในตอนนั้น รวมถึงเป็นตลาดตัวกลางในการซื้อขายอาหารทะเลด้วย โดยมันถูกพัฒนาจากทีม Eachmile ที่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ โดยในปัจจุบันได้มีผู้ใช้งานกว่า 7000 คน
US Secretary of State John Kerry announces mFish at the Our Ocean conference.
- FishTrax ซึ่งเป็นระบบการสอบกลับที่จะช่วยตรวจสอบข้อมูลอาหารทะเลนั้นๆว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ซึ่ง platform ที่บริษัทสร้างขึ้นมาจะถูกนำไปใช้ในการบันทึกข้อมูลการโอนถ่ายอาหารทะเล ปัจจุบันถูกนำไปทดสอบในอเมริกาเหนือ โดยได้รับการพัฒนาจาก Oregon State University,the Oregon Salmon Commission และ Ariel Seafood.
- สุดท้ายคือ Seafood Analytics ที่จะเป็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่ถูกใช้ในการตรวจสอบคุณภาพของปลาที่จะทำให้ชาวประมงรายย่อยต่างๆสามารถเก็บข้อมูลจากปลาได้
Token Economics
บริษัทได้ทำการสร้างโทเคน FishCoin ขึ้นมาเพื่อเป็นการตอบแทนให้แก่ผู้ที่มอบข้อมูลเกี่ยวกับอาหารทะเลเหล่านั้น ซึ่งตัวการนำ Token ไปใช้ก็ขึ้นอยู่กับปัจเจกบุคคลและความต้องการ ยกตัวอย่างเช่น ประมงรายย่อยที่อาศัยอยู่ในประเทศกำลังพัฒนา เป็นบุคคลที่ไม่ได้มีความมั่งคั่งทางด้านการเงินมากนัก เมื่อเขาได้รับโทเคนเป็นการตอบแทนจากข้อมูลที่เขากรอกไป คำถามคือเขาจะนำไปทำอะไรในเมื่อตัวเองก็ไม่ได้มีความรู้หรือสนใจในแวดวงเหรียญดิจิทัลมากนัก FishCoin จึงแก้ปัญหาเหล่านั้นโดยการมองเข้าไปที่ความต้องการของชาวประมงรายย่อย ทีมงานพบว่าเขาเหล่านั้นให้ความสำคัญกับการติดต่อสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์มากที่สุด
เพราะจากการสำรวจของทางทีมงานพบว่าอาหารทะเลที่ขายตามท้องตลาดเกือบ 85% ล้วนถูกจับมาจากชาวประมงรายย่อยทั้งสิ้น ทีมงานจึงร่วมมือกับพาร์ทเนอร์อย่าง TransferTo เพื่อนำ FishCoin เหล่านั้นเปลี่ยนให้กลายเป็นแพคเก็จค่าโทรศัพท์รายเดือนให้แก่ชาวประมงรายย่อยเป็นการกระตุ้นให้เหล่าชาวประมงรายย่อยเริ่มสนใจและร่วมมือทำให้โปรเจคนี้พัฒนาไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ
สำหรับประโยชน์อื่นๆของ FishCoin นั้นการที่ชาวประมงเก็บข้อมูลเพื่อแลก Fishcoin นั้นการที่ Third party ต่างจะได้มาซึ่งข้อมูลของปลานั้นจะไม่ได้มาฟรีๆ แต่จะต้องใช้ Fishcoin ในการซื้อข้อมูลเหล่านี้ซึ่งผู้ที่ต้องใช้ Fishcoin ในการซื้อก็ได้แก่โรงงานแปรรูปอาหารทะเล นายหน้าขายอาหารทะเล ร้านอาหารรายย่อยต่างๆที่ต้องการเพิ่มมูลค่าให้แก่เมนูอาหารของตัวเอง ไปจนถึงหน่วยงานวิจัยทางทะเลที่ต้องการใช้ข้อมูลเหล่านี้ไปวิเคราะห์ Big data เพื่อวิเคราะห์อื่นๆต่อ
Actors & Transactions
ทำความเข้าใจก่อนว่า เจ้าเหรียญนี้ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อใช้เป็นตัวกลางในการสิ่งแลกเปลี่ยนสินค้า แต่จะเป็นรางวัลที่มอบให้แก่ผู้ที่ทำการกรอก ตรวจสอบ และส่งทอดข้อมูลที่สำคัญของอาหารทะเลนั้น(พูดถึงข้อมูลที่เราได้กล่าวเอาไว้ในปัญหาที่1) โดยกระบวนการให้เหรียญนี้เราจะอธิบายให้คุณสั้นๆดังนี้
สมมติว่าคนจับปลาจับปลาแซลม่อนได้1ตัว เขาจะทำการกรอกข้อมูลรายละเอียดของเครื่องมือการจับ สถานที่ ชนิด ลงบน platform ต่อมาพ่อค้าคนกลางที่เข้ามารับซื้อปลาก็จะทำการตรวจสอบรายละเอียดของ platform ที่คนจับปลาลงเพื่อดูว่าตรงตามความต้องการของตนไหม ถ้าตรงแล้วเขาก็จะซื้อปลาไปพร้อมกับมอบ FishCoin ให้เป็นการตอบแทนกับข้อมูลที่เขาได้มาและเขาก็จะลงข้อมูลของปลาต่อเช่น ความสด คุณค่าทางโภชนาการ ใส่platform เพื่อที่ส่งต่อไปแก่ผู้รับสารคนต่อไปเรื่อยๆ จนการเป็น Supply chain ไปในที่สุด


ICO
ปัจจุบัน Fishcoin ยังอยู่ในช่วง private sale ซึ่งยังไม่มีการระบุวันที่สำหรับ Public Sale แต่อย่างใด
Example Use Cases
หัวใจของการที่นำ blockchain เข้ามาเป็นฐานระบบสำหรับการพัฒนาโปรเจคนี้ก็คือความต้องการที่จะทำลายระบบศูนย์กลางที่เป็นจุดด่างพร้อยของธุรกิจอาหารทะเลให้หมดไป ตัวโปรเจคจะสนับสนุนการทำงานร่วมกันของหลายภาคพื้นธุรกิจตั้งแต่ บริษัทรายใหญ่ เจ้าของเรือ เจ้าของฟาร์ม ชาวประมงรายใหญ่รายเล็ก หรือใครก็ตามที่สามารถระบุข้อมูลของอาหารทะเลได้ก็จะได้รับผลตอบแทนเป็นโทเคนตามที่ระบุไว้ เพื่อทำให้การระบุข้อมูลรายละเอียดของอาหารทะเลเหล่านั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถถูกตรวจสอบกลับได้อย่างง่าย
Core team
- Mark Kaplan มีประสบการณ์ในการเป็น developer และตรวจสอบโปรแกรมให้กับบริษัทชั้นนำมากมายเช่น Microsoft, MasterCard, ARM, GSMA, Facebook
- Alistair Douglas มีประสบการณ์ในวงการอาหารทะเลมามากถึง20ปี และเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทนำเข้า ส่งออกปลาทูน่าในประเทศสหรัฐอเมริกากับญี่ปุ่นอีกด้วย
- Alastair Smart มีประสบการณ์ในวงการอุตสาหกรรมประมงทะเลมากกว่า20ปี เคยทำงานในฟาร์มเลี้ยงปลาและหอยแมลงภู่ อีกทั้งยังเป็นประธานของ South Australian Mussel Growers Association
- Jayson Berryhill มีประสบการในการทำงานเกี่ยวกับนวัตกรรมดิจิทัล และเคยทำงานร่วมกับบริษัทแนวหน้ามากมายเช่น Unilever, Facebook, the US State Department, the GSMA
- Corey Peet เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำอาหารทะเลให้ยั่งยืน
Advisors
Advisor เป็นทีมผู้พัฒนาจาก Eachmile ที่มีเป้าหมายจะปรับเปลี่ยนโครงสร้างของวงการอุตสาหกรรมอาหารทะเลและการเกษตรให้เป็นที่เป็นทางมากขึ้น โปร่งใส และมีความปลอดภัยตลอด supply chain ซึ่งสมาชิกแต่ละคนก็ล้วนมีประสบการณ์ในการทำงานภายในวงการเหล่านี้มาเป็นเวลานานพอสมควร
Partner
พาร์ทเนอร์ประกอบด้วยกลุ่มนักลงทุนที่มีชื่อเสียงมากมายเช่น
- Jun Capital ที่เป็นบริษัทกองทุนชั้นนำที่จะลงทุนในกองทุนที่ดีต่างๆ
- ICOLAB เป็นบริษัทที่จะทำการศึกษาค้านคว้าเกี่ยวกับการระดมทุนICO ในประเทศเกาหลี
- นอกจากนี้ยังมีบริษัทต่างๆเช่น smartaqua, Ocean Foundation, IPNLF ซึ่งบริษัทเหล่านี้ก็มุ่งเป้าไปยังอุตสาหกรรมประมงทะเลทั้งสิ้น
- ที่น่าสนใจที่สุดคงจะไม่พ้นบริษัท Thai Union ที่เป็นบริษัททำผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับอาหารทะเลและการส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยก็ยังร่วมมือทำโปรเจคนี้อีกด้วย
สรุป
จากข้อมูลที่ทุกๆคนได้อ่านมาข้างต้นก็แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการวิเคราะห์และสรุปถึงต้นเหตุของปัญหาในธุรกิจวงการอาหารทะเลจากทีมงาน FishCoin สิ่งที่น่าสนใจมากก็คือแนวคิดและการพัฒนาโปรเจคนี้ของทางทีมงานถูกออกแบบมาอย่างซับซ้อนและน่าทึ่งมาก เพราะSupply chain ที่ถูกบริษัทพัฒนาขึ้นนี้ไม่เพียงสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจในการซื้อขายอาหารทะเล แต่ยังช่วยระบุตัวตนของผู้ซื้อพร้อมกับมอบรางวัลเป็นเหรียญ FishCoin ให้แก่ผู้ที่มายืนยันความถูกต้องของข้อมูลต่างๆด้วย ระบบยังสนับสนุนการทำงานที่ต้องอาศัยความร่วมมือกันของทุกๆภาคส่วนเพื่อทำให้โปรเจคประสบความสำเร็จซึ่งเป็นเครื่องมือที่ยืนยันว่า ทุกๆคนก็สามารถเป็นส่วนนึงได้กับ platform นี้ แต่ตัวโปรเจคนี้ส่วนตัวผมคิดว่ามันยังเจาะจงเฉพาะกลุ่ม Fishery มากเกินไปอาจทำให้ใครหลายๆคนเข้าถึงยาก สุดท้ายแล้วถ้าตัวระบบถูกใช้มากขึ้น การหมุนเวียนของปริมาณเหรียญ FishCoin ในระบบก็จะยิ่งมากขึ้น นี่จะเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า platform blockchain นี้ก็สามารถประสบความสำเร็จได้บนธุรกิจอาหารทะเลเช่นกันครับ
**การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรติดสินใจก่อนการลงทุน ทาง Blockchain Review จะไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียในกรณีใดๆ