Crypto Currency คือ สกุลเงินดิจิตอลที่มีความแตกต่างกับสกุลเงินทั่วๆไปที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน เช่น USD EUR THB JPY ฯลฯ มันแตกต่างกันตรงที่ Crypto Currency มีอยู่อย่างจำกัด แต่สกุลเงินทั่วไป สามารถเพิ่มขึ้นได้ ด้วยนโยบายต่างๆ
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!Crypto Currency ในที่นี้ ผมขอหยิบยกสกุล BTC ขึ้นมา หากเรามองในมุมที่ว่า BTC มันคือ เงินสกุลหนึ่ง มันจะเป็นสกุลเงินที่ไม่มีทางเฟ้อเลยแม้แต่น้อย เพราะมันมีจำนวนที่จำกัด มีเพดานอยู่ที่ 21,000,000 BTC แต่หากเรามองในมุมที่มันเป็นทรัพย์สิน มันยังคงเป็นทรัพย์สินที่มีจุดอ่อนสูงมาก(ในตอนนี้)เช่นกัน เนื่องจาก เราต้องใช้เงินเพื่อซื้อมัน หากคนเทขาย ราคาก็ตก หากคนกวาดซื้อ ราคาก็ขึ้น
มันฟังดูง่าย ดูเหมือนสิ่งที่เรารู้กันอยู่แล้ว แต่…..
นี่หล่ะ คือจุดอ่อนที่สำคัญเลย !!!!! สิ่งของที่มีจำนวนจำกัด หากเจ้าตลาดต้องการให้ราคาขึ้น ก็กวาดซื้อ หากต้องการให้ราคาลง ก็เทขาย แต่เรามักจะติดอยู่กับคำที่ว่า มันมีจำกัด ยังไงราคามันก็ขึ้น(ฟังคุ้นๆไหมครับ) ผมเลยอยากจะให้คิดในมุมกลับว่า สิ่งที่ใช้(เงินดอลลาร์)ในการซื้อมัน(Crypto Currency) มันมีอยู่อย่างไม่จำกัดนะ มันสามารถสูบเข้าใส่ระบบเศรษฐกิจได้อย่างไม่จำกัด และสูบออกอย่างไม่จำกัดได้เลยด้วยซ้ำ
ทีนี้ เรามาดูในมุมของ Property (อสังหาริมทรัพย์)
คนมักจะบอกว่า “ อสังหาฯ คือสิ่งที่มีอยู่อย่างจำกัด โดยเฉพาะ ที่ดิน อสังหาฯ ยังไงราคาต้องขึ้น เพราะประชากรเพิ่มขึ้นทุกๆวัน “ รู้หรือไม่ครับว่า คำกล่าวนี้ ใช้ไม่ได้กับประเทศญี่ปุ่นแล้วนะ เพราะอัตราการเกิด ต่ำลงมาก คนเอาเงินไปซื้อ Equity มากกว่าที่จะเอามาซื้ออสังหาฯ อีก เพราะไม่จำเป็นต้องมีมรดก และเหตุผลอีกมาก
แต่จุดสำคัญที่จะต้องให้ความสนใจมันคือ “มันมีอยู่อย่างจำกัด” คุ้นๆหูไหมครับ Mindset ของคนส่วนใหญ่ นิยาม Bitcoin เหมือนกับที่นิยามที่ดินเลยในช่วงที่มันราคาพุ่งขึ้น (อารมเหมือนเห็นสิ่งที่มีอยู่อย่างจำกัด ราคาพุ่งสูงขึ้นเพราะคิดว่ามีคนเห็นโอกาสแล้วรุมซื้อ) ทั้งๆที่ไม่ได้คิดว่ารัฐบาลไม่รับผิดชอบกับความเสียหายด้วยซ้ำเวลามันราคาตกเหมือนหุ้น
สิ่งที่คุณต้องตอบคำถามกับตัวเองก่อน ก่อนที่คุณจะซื้อ Crypto และ Property คุณเข้าใจสิ่งที่เรียกว่า เงิน ดีแค่ไหน ? เพราะทั้งสองสิ่ง ต้องใช้เงินซื้อ ถึงมันจะมีจำกัด ก็จริงอยู่ แต่ราคาของมัน ขึ้นอยู่กับ Demand และ Supply ที่ทำให้เงินถูกสูบเข้า และ สูบออก
หากคุณยังไม่เข้าใจถึงสิ่งที่เรียกว่า เงิน มันก็ไม่ต่างอะไรกับการ “ซื้อทรัพย์สินด้วยความโลภที่คิดว่ามันมีเหตุผล” เลย
ในบทความนี้ ผมอาจไม่ได้ฝากสิ่งใดไปมากกว่า การที่ทำให้คุณมองสิ่งที่คุณไม่รู้ให้ออกเสียก่อน หากคุณมองเห็นถึงความไม่รู้ของตน คุณจึงจะเฉลียวฉลาดขึ้นได้ มองให้ออก มองทุกมุม มองด้วยเหตุผล แล้วทุกๆท่านจึงจะรู้วิถีเพื่อก้าวเดิน
Petchy Econ Vision
