หลายเดือนที่ผ่านมา ข่าวของ Future Market หรือตลาดอนาคตถูกนำมาปั่นกระแสหลายครั้ง
รวมถึงรูปปริศนาที่ว่าราคาของ Bitcoin จะขึ้นไปเท่าไหร่ด้วย และทั้งหมดคือการสร้างความหวัง
ทำไมต้องสร้างความหวัง
(1) เพื่อให้ตอนขึ้น เม่าไล่ราคา คนจะโลภมากขึ้น และอยากที่จะเปลี่ยนสินทรัพย์ทุกอย่างมาลงทุนสิ่งนี้
(2) เพื่อให้ตอนลง เม่าไม่เทขาย คนจะยึดติดมากขึ้น และถือรอความหวังที่อาจจะเกิดขึ้น
เหมือนมีหวยมาบอกแล้วว่า ราคาจะไปเท่านี้ แล้วหวยนี้ถูกมาแล้วสองครั้ง ให้พวกคุณซื้อแล้วไปรอขายครั้งต่อๆไปได้เลย เราจะพามันไปถึงราคานั้นอย่างแน่นอน แค่นี้คนก็โลภแบบไม่ลืมหูลืมตาแล้ว ที่น่ากลัวคือ คนส่วนมากที่เข้ามาโลภตามรูปใบ้หวย ได้นำสินทรัพย์ การลงทุน และอนาคตเกือบทั้งหมด มาผูกไว้ในตลาดแห่งนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มันหมายถึง ตลาดแห่งนี้คือความหวังและความมั่งคั่งของคนคนนั้นทั้งหมดแล้ว และถ้าตลาดแห่งนี้มูลค่าเพิ่มขึ้นหรือลดลง ความมั่งคั่งและอนาคตของคนเหล่านั้นก็จะไปในทิศทางนั้นด้วยเช่นกัน
BAKKT เป็นที่ถูกตั้งความหวัง?
ค่อนข้างจริง คนจำนวนมากคิดว่า BAKKT จะทำให้ราคาของ Bitcoin เพิ่มสูงขึ้น และทำให้ตลาดไปไกลกว่านี้ เพราะเงินของกองทุนเข้ามาลงทุนในคริปโต และ BAKKT เป็นการส่งมอบบิทคอยน์จริงๆ (Bitcoin Settlement) ไม่ใช่การส่งมอบเงิน (Cash Settlement) เหมือนที่ CBOE เคยเปิดเมื่อเดือนธันวาคมปี2017
เมื่อ Future Market ใช้เพื่อทำการ Hedging หรือควบคุมความเสี่ยงเป็นหลัก
แต่กลายเป็นเครื่องมือเก็งกำไรในภายหลัง
คนที่ขุดได้จะทำการ Short เพื่อล็อคราคา โดยทำการขายล่วงหน้า เช่นบิทคอยน์ราคาเหรียญละ 15,000 ดอลลาร์ เหมืองเรามีกำลังขุดราว 40บิทคอยน์ต่อเดือน ราคาต้นทุนต่อเหรียญอยู่ที่เหรียญละ 6,000 ดอลลาร์ เราจะได้กำไรเหรียญละ 9,000 ดอลลาร์ หรือราว 270,000 บาท ซึ่งเราจะขายได้ต่อเมื่อเหรียญถูกขุดออกมาแล้วเท่านั้น แต่เราอยากได้ราคานี้ไปอีกหกเดือน เราจะทำอย่างไรดี
ดังนั้นคนขุดซึ่งเปรียบเสมือนผู้ผลิต ให้ทำการ Short เพื่อประกันราคาว่าเราจะกำไรที่ราคานี้ อย่างแน่นอน ไปอีกอย่างน้อย 6เดือน แปลว่า6้เดือนนี้ เหมืองขุดบิทคอยน์ของเราจะไม่มีปัญหาในเรื่องราคาเลย เพราะทำการล็อคผ่านการ Short Sell เพื่อประกันราคาขายโดยทำสัญญาขายล่วงหน้าไว้แล้ว
ส่วนคนที่อยากซื้อราคานี้ก็จะทำการล็อคราคาเพื่อเข้าซื้ออีกครั้งในอนาคต โดยฝากเงินส่วนนึงเปิด Long ภาษาบ้านๆเรียกว่า “แทงขึ้น” เพื่อเป็นการล็อคราคาไว้ก่อน เช่นราคา Bitcoin $9,000 มีเงินเดือนเดือนละ $9,000 และอยากซื้อ 4บิทคอยน์ ที่ราคา $9,000 ต่อบิทคอยน์โดยจะจ่ายเป็นเงินเต็มจำนวนอนาคตก็ต้องใช้เวลาทั้งสิ้น 4เดือน ในการหาเงินมาซื้อ แม้ว่าราคาของ Bitcoin จะขึ้นไป $20,000 ต่อบิทคอยน์แล้วก็ตาม คนเปิดสัญญาก็ยังซื้อ Bitcoin ได้4บิทคอยน์ ที่ราคาเหรียญละ $9,000 อยู่เสมอ นี่คือข้อดีของฝั่ง Long ต่อนักลงทุน
ทิ้งท้ายความเห็นจากผู้เขียน
ปัจจัยโลกกำลังเข้าสู่ความเสี่ยง บิทคอยน์และคริปโตตัวอื่นกำลังอยู่บนทางแยกที่น่าจับตา . . .
ไว้โอกาสหน้า เราจะมาพบกันใหม่ ในบทความ “เศรษฐกิจโลก ความเสี่ยง ทิศทางที่เป็นไปได้ของบิทคอยน์ . . . “
