ในเร็วๆนี้เราคงจะได้ยินข่าวดีที่โปรเจคต์ Band Protocol ซึ่งเป็นโปรเจคต์ของคนไทยที่สามารถไปสร้างชื่อด้วยการถูกลิสต์ลงบน Binance Lunchpad ที่เป็นกระดานเทรด Cryptocurrency ระดับโลกซึ่งได้สร้างชื่อให้กับคนไทยไปแล้ว วันนี้เราจะมารีวิวอีกโปรเจคต์นึงที่มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะมันเป็นโปรเจคต์จากทายาทตระกูล CP ที่มีชื่อเสียงมากในไทยอย่างคุณ ชัชวาลย์ เจียรวรานนท์ และยังได้ Jed McCaleb ที่เป็น Co-founder ของ Stellar มาเป็นที่ปรึกษาด้วยโดยโปรเจคต์นี้มีชื่อว่า Velo Protocol
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!แนวคิดพื้นฐานของ Velo
แนวคิดของ Velo นั้นได้มากจา Cryptocurrency ในทุกวันนี้เนื่องจาก Cryptocurrency เป็นนวัตกรรมที่มีคุณค่ามากเพราะมันสามารถส่งต่อมูลค่าและสามารถเขียนโปรแกรมลงไปในลักษณะ Programable Money ได้ซึ่งมันทำให้ระบบการเงินสามารถสร้างคำสั่งที่ซับซ้อนและสร้างเสริมนวัตกรรมและเปิดประตูในความเป็นไปได้แก่ธุรกิจมากมาย แต่อย่างไรก็ตาม Cryptocurrency นั้นมีปัญหาอยู่ที่ยิ่งใหญ่อยู่นั้นคือราคาที่ไม่คงที่และสถาพคล่องที่ไม่เพียงพอ ในความเป็นจริงของธุรกิจนั้นน้อยครั้งที่ธุรกิจจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของ Cryptocurrency ได้และหหากเกินการโอนถ่ายเงินจำนวนมากในธุรกิจที่มีค่ามากๆ ด้วยสภาพคล่องของตลาด Cryptocurrency ในปัจจุบันจึงไม่สามารถตอบความต้องการของธุรกิจที่อยากนำ Cryptocurrency ไปใช้ได้ Velo จึงคิดจะสร้างสิ่งที่เรียกว่า Digital Credit เพื่อให้องค์กรต่างๆสามารถนำมันไปใช้ได้โดยมันจะมีมูลค่าคงที่และสภาพคล่องที่เพียงพอ
Velo คืออะไร?
Velo เป็น Protocol ที่จะสร้างสิ่งที่เรียกว่า Digital Credit ที่จะมีมูลค่าคงที่โดยมันจะถูกบริหารจัดการให้มีมูลค่าคงที่ด้วย Velo Tokeon และ Velo Labs ซึ่ง Digital Credit นี้จะเป็นสิ่งที่ธุรกิจต่างๆสามารถเอาไปต่อยอดได้เช่นนำเอาไปใช้ในการโอนเงินของธุรกิจ ทำระบบ Royalty ทำระบบ Lending หรือแม้แต่ให้ธุรกิจซักธุรกิจหยิบมันไปสร้างเหรียญเป็นของตัวเองเพื่อสร้างแพรน
Digital Credit มีมูลค่าได้อย่างไร?
ด้วยการที่ Digital Credit เป็นสิ่งที่มีูมลค่าคงที่นั้นเท่ากับว่ามันต้องมีวิธีใดวิธีหนึ่งเพื่อทำให้มูลค่ามันคงที่และวิธีที่ Velo ใช้คือการใช้ Velo Token ค้ำประกันมูลค่าและให้ Velolabs เป็นคนบริหารจัดการ ตัวอย่างเช่น
- มีบริษัทพาร์ทเนอร์ต้องการ Digital crdit มูลค่า 100 USD โดยในขณะนั้น Velo Token มีค่าเท่ากับ 1 USD
- Velolabs จะทำการดึง Velo Token ออกจาก pool ของ Velolabs ออกมาจำนวน 100 Token และนำไปค้ำประกันเป็น colletaral เพื่อสร้าง Digital Credit ที่มีมูลค่า 100 USD และมอบให้แก่พาร์ทเนอร์
- หากในวันถัดไป Velo Token มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 2 USD สิ่งที่ Velolabs ทำคือการดึง Velo จำนวน 50 Token จาก colletaral กลับคืนมาเพื่อคงมูลค่าของ Digital Credit
- ในทางกลับกันหา Velo มีมูลค่าลดลง Velolabs จะเติม Velo เพิ่มลงไปใน colletaral ให้ Digital Credit มีมูลค่าเท่าเดิม
Digital Reserve System
Digital Reserve System ของ Velo ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่รักษามูลค่าของ Digital Credit แต่ยังสามารถทำหน้าที่ปล่อยกู้ Velo ด้วยเพื่อให้ธุรกิจในเครือสามารถนำเหรียญไปพัฒนาธุรกิจโดยทาง Velolabs จะทำการประเมินมูลค่าธุรกิจและใช้สิ่งอื่นนอกเหนือจากเงินเช่นเครดิตของบริษัทนั้นในการค้ำประกันเพื่อปล่อยกู้ได้ และถ้าบริษัทใดมีประวัติการชำระเงินที่ตรงเวลาก็จะมีเครดิตที่ดีและสามารถกู้ Velo ได้มากขึ้น
โอกาสของตลาด
จริงๆด้วยการที่ Digital Credit เป็นหน่วยทางดิจิทัลที่มีมูลค่าการนำมันไปใช้ก็ขึ้นกับบริษัทนั้นจะนำไปออกแบบการใช้งานแต่ตัวอย่างการใช้งานของ Velo นั้นก็เช่น การโอนเงิน การปล่อยกู้ การทำ Stablecoin และ Loyalty Point
สรุป
Velo เป็นโปรเจคต์ที่มีทีมค่อนข้างเข้มแข็งอย่างปฎิเสธไม่ได้แม้แต่ Jed McCaleb เองก็เป็น Co-founder ของ Ripple และ Stellar ทางคุณชัชวาลย์ก็มีประวัติทางธุรกิจที่ดีและได้รับความน่าเชื่อถือ แนวคิดของ Velo นั้นค่อนข้างที่จะเรียบง่ายในการสร้าง Digital Credit เพราะฉะนั้นมูลค่าของมันจึงขึ้นกับว่าทาง VeloLabs สามารถโน้มน้าวธุรกิจอื่นให้นำไปใช้จริงๆได้ไหม ซึ่งด้วยเส้นสายทางธุรกิจก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ จุดที่ต้องระวังในโปรเจคต์นี้คือ ด้วยการใช้งานที่ออกมาแก้ไขเรื่องสภาพคล่องนั้นหมายความว่าเม็ดเงินระดมทุนน่าจะค่อนข้างมากและเราอาจจะไม่ได้เห็นมัน FOMO เหมือนโปรเจคต์อื่นๆเท่าไหร่และอาจจะถูกจำกัดทางแวดวงธุรกิจ ก็เป็นได้