Word-of-mouth (WoM) การตลาดแบบปากต่อปากมีประสิทธิภาพในเรื่องการเพิ่มความเชื่อมั่น และเพิ่มฐานลูกค้าทั้งยังส่งผลดีต่อแบรนด์เป็นอย่างมาก
Affiliate Marketing การตลาดแบบพันธมิตร
การตลาด Affiliate ตรงข้ามกับ Refferal Marketing นั่นคือไม่ใช่การพึ่งพาลูกค้าเดิม
ในการแนะนำบอกต่อสู่คนรอบตัว แต่เป็นการทำการตลาดผ่านกลุ่มลูกค้าของพันธมิตรแทน การตลาดแบบนี้ขยายฐานลูกค้าสู่คนกลุ่มใหม่ได้ค่อนข้างดี และหากวัดผลลัพธ์แล้วอาจจะคุ้มกับต้นทุนที่ใช้ไปมากกว่าการตลาดแบบ Refferal Marketing
Note : Refferal Marketing การตลาดแบบแนะนำ
เป็นการขยายฐานลูกค้าจากการบอกต่อ มีข้อจำกัดในด้านฐานลูกค้าใหม่ที่เข้าถึง เพราะเป็นการขยายผ่านลูกค้ากลุ่มเก่า อีกทั้งการตลาดแบบนี้ยังใช้งบประมาณค่อนข้างมาก แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือการขยายฐานลูกค้าได้เพียงส่วนนึง ซึ่งหากเอามาวัดผลลัพธ์แล้วอาจจะไม่คุ้มต้นทุนสักเท่าไหร่
การโฆษณาออนไลน์เพื่อเพิ่มยอดขายของผลิตภัณฑ์และการได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการตลาดแบบ Affiliate ค่าใช้จ่ายของกลุ่มบริษัทที่ใช้จ่ายในการตลาดแบบ Affilaite จะเพิ่มขึ้นในแต่ละปี คาดการณ์ว่าจะเกินกว่า 6.8พันล้านดอลลาร์ ในปี 2020 เฉพาะในสหรัฐฯเท่านั้น แสดงให้เห็นว่า บริษัทมีมากขึ้นและยอมรับความจำเป็นในการตลาดบอกปากต่อปาก(WoM)มากยิ่งขึ้น และยินดีที่จะใช้งบการตลาดมากขึ้นกับการทำตลาดแบบ Affiliate โดยผู้บอกต่อคือพันธมิตรของเรา ดังนั้นหากทำการตลาดแบบนี้สิ่งสำคัญคือการเลือกพันธมิตรที่น่าเชื่อถือในการบอกต่อ
ตัวอย่างของการตลาดบอกปากต่อปาก (WoM) : Coca Cola หรือที่เราคุ้นในชื่อ Coke
ซึ่งเป็นการตลาดแบบ Viral Marketing เป็นส่วนนึงของการตลาดแบบ WoM
รูปแบบ Viral ที่ Coca Cola ใช้
คิดคำติดที่บริเวณด้านข้างกระป๋อง ตามแต่ละแคมเปญ ทำให้คนสนใจแล้วพูดบอกแบบปากต่อปาก
ทำให้เมื่อเราเห็นเพื่อนซื้อก็อยากซื้อตาม บางครั้งก็เลือกคำตามกระป๋องที่เราถูกใจ
เมื่อทุกคนพร้อมจะทำตามกัน ทุกอย่างก็จะกลายเป็นไวรัล ถูกส่งต่อกันไปเรื่อยๆ
ปัญหาของการทำการตลาดประเภทนี้คือ
มีการจัดการด้านความแม่นยำและเวลาในการชำระเงินที่ไม่ดี และนั่นส่งผลถึงความเชื่อมั่นของลูกค้า อีกทั้งยังมีประเด็นการหลอกลวงการขายโดยใช้โฆษณาที่เสียค่าใช้จ่ายและสแปม
เช่นถ้าเราจ้างบริษัทA ช่วยทำการตลาดแต่เราจ่ายเงินช้า แปลว่า บริษัทAอาจจะสุ่มเสี่ยงที่จะขาดสภาพคล่องเพราะต้องออกค่าดำเนินงานส่วนนึงหรือทั้งหมดก่อน และรับเงินหลังงานเสร็จ บางครั้ง กับดักสภาพคล่องก็นำไปสู่ปัญหาได้ หากบริษัทนั้นวางแผนจะนำเงินก้อนนี้ไปชำระหนี้ หรือดอก เบี้ย มันจะกระทบไปเป็นทอดๆ
How is Gagapay Network solving it? , Gagapay จะแก้ปัญหานี้อย่างไร
Gagapay Network มีจุดมุ่งหมายจะเป็นบล็อกเชนที่รองรับการสร้างระบบพันธมิตร(Affiliate) การแนะนำ(Refferal) การทำการตลาดแบบเครือข่าย(Network Marketing) สร้างความเชื่อมั่น(Loyalty) และเป็นเครื่องมือสร้างโครงการแจกเงินรางวัลในกิจกรรมต่างๆ (BountyProgram)
Gagapay Destination , จุดมุ่งหมายของ Gagapay คือกลุ่มลูกค้าแบบไหน ?
ระบบของ Gagapay นั้นรองรับทั้งการทำตลาดแบบ Affiliate และ การทำการตลาดแบบ Refferal เป้าหมายของ Gagapay Network คือ
-เครือข่ายส่วนบุคคล
-การตลาดเครือข่ายและตัวแทนจำหน่าย
-Startups
-SMEs
-องค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการขยายการเข้าถึงแบรนด์ของลูกค้า
——Gagapay Network จะเป็นแพลตฟอร์ม SaaS ที่จะช่วยแก้ปัญหาด้านการตลาดอัจฉริยะในปัจจุบัน——
Note : SaaS (Software as a service)
คือการใช้ซอฟแวร์ในการบริการ มีข้อดีคือ ราคาถูก ประหยัดเวลา
เพิ่มหน่วยความจำง่าย ใช้งานได้หลายเครื่องมือ ซึ่งเหมาะกับการตลาดปัจจุบัน
จุดเด่นของ Gagapay Network คือ
- มีระบบรักษาความปลอดภัยแบบ blockchain และการทำสัญญาอัจฉริยะด้วยตนเองเพื่อ
สร้างความไว้วางใจและความโปร่งใสระหว่างบริษัทและลูกค้า
•เป็นตลาดที่เปิดกว้างให้นักการตลาดและบริษัทมาเจอกัน รวมทั้งช่วยกำหนดกลุ่มเป้าหมายและส่งคำเชิญ - เครื่องมือออกแบบแบบลากและวางที่เรียบง่ายพร้อมด้วยเทมเพลตสำเร็จรูปและตามความต้องการ
•รูปแบบการสมัครรับข้อมูลรายปีราคาไม่แพง
•โฮสติ้งของแคมเปญหลายรายการและโปรแกรมจากบัญชีสมาชิกเดียว
•ค่าคอมมิชชั่นต่ำสำหรับธุรกรรมการชำระเงินสำหรับแคมเปญรางวัล fiat และ crypto reward;
•การตอบสนองต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่ผ่านแอพพลิเคชั่น
•เปิด API
•การคำนวณและการจ่ายเงินรางวัลอัตโนมัติของสัญญาแบบสมาร์ทโดยอัตโนมัติ (ทันทีหรือตามกำหนดเวลา)
•เข้าสู่ระบบ 2FA ที่ปลอดภัยด้วย NEO Auth
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความสามารถพื้นฐานของแพลทฟอร์ม NEO
เป้าหมายของ Gagapay คือการจัดหาเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับบริษัท blockchain และ บริษัท non-blockchain เพื่อการเติบโตของฐานลูกค้า เพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์เพิ่มการซื้อที่เกิดขึ้นเป็นประจำ และการขายเพิ่มระดับความเชื่อมั่นและขยายการเข้าถึงลูกค้าทั่วโลก ทั้งหมดนี้จะ เป็นไปได้โดยการเชื่อมต่อ บริษัท และนักการตลาดแต่ละรายผ่านทางแพลตฟอร์มของGagapayที่เปิดอยู่ ทำให้บริษัทเข้าถึงพันธมิตรได้ง่ายและหลากหลายวงการ อีกทั้งยังมีเครื่องมือให้ใช้ในราคาย่อมเยาว์ ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถแข่งขันกับธุรกิจขนาดใหญ่ได้โดยปราศจาก กำแพงของทุนทรัพย์ที่คอยกั้นไว้ในอดีต
ทำไมต้องใช้บล็อกเชน?
เครือข่าย Gagapay จะสร้างขึ้นจากแพลทฟอร์มของ NEO และจะใช้คุณสมบัติที่มีอยู่ใน NEO เช่น สัญญาอัจฉริยะบน blockchain และ NEO Auth 2FA ระบบเพื่อสร้างความปลอดภัย, และทำงานได้ด้วยตนเอง เพื่อประหยัดการใช้เวลาและทรัพยากรมนุษย์
จะมีการสร้าง Gagapay Network ขึ้นมาเพื่อใช้งานกับ NEO Blockchain แบบส่วนตัวเพื่อใช้คุณสมบัติที่ NEO มีเช่น Neo Smart Contract สัญญาอัจฉริยะ , Relate Private-Public Blockchain การเชื่อมต่อระหว่างบล็อกเชนสาธารณะและบล็อกเชนส่วนตัว , NEO 2FA ในเรื่องความปลอดภัย , NEO digital identities การยืนยันตัวตนแบบดิจิตอลผ่านระบบ NEO
สรุปสาเหตุและจุดเด่นของบล็อกเชนที่ Gagapay เลือกใช้
คือระบบมีความปลอดภัยจากการเข้ารหัส
โปร่งใสสามารถตรวจสอบได้บนBlockchain ตรวจเช็คได้หมด
ซึ่งหากทาง Gagapay พัฒนาระบบนี้ขึ้นมาใช้เอง หรือสร้างตัวแพลทฟอร์มแม่เองก็จะต้องใช้ทรัพยากรที่มากขึ้น
และยังต้องผ่านการตรวจสอบผ่านระยะเวลา เพื่อให้คนเชื่อมั่นในระบบ
กลับกันหากใช้ระบบของ NEO ซึ่งมีทีมพัฒนาและฐานผู้ใช้งานอยู่แล้ว จะสามารถสร้างโปรดักได้เลย
อีกทั้งยังไม่ต้องพัฒนาระบบพื้นฐานเอง ทำให้ทีมไปโฟกัสที่ระบบหรือ Gagapay Network แทน
อีกจุดเด่นพิเศษของ NEO คือค่าส่งฟรีแต่ต้องถือไว้ GAS จำนวนนึงในกระเป๋า
ซึ่งคิดเป็นปริมาณที่น้อยมาก และส่งเร็วมาก ผู้ใช้จะไม่ต้องกังวลค่าส่งเลย
Gagapay Token Crowdfunding
โทเคนของ Gagapay ในหลายส่วนได้แก่
-จะถูกใช้ในการจ่ายค่าธรรมเนียมการใช้ระบบในแต่ละรอบ
-ใช้ในการโฆษณา
-ใช้จ่ายในการจัดกิจกรรม Bounty ต่างๆ
-ใช้เป็นส่วนลดในแพลทฟอร์มของ Gagapay
โดยมี Softcap ที่ 1ล้านดอลลาร์ และ Hardcap ที่ 34.5ล้านดอลลาร์
1.ในส่วนของ Softcap นั้นคือจำนวนขั้นต่ำที่เพียงพอในการทำโปรเจคตามที่วางแผนไว้
2.ถ้าหากมีโทเคนเหลือหลังระดมทุน ระบบจะทำการเก็บโทเคนไว้เป็นทุนสำรองสำหรับโปรเจคในอนาคต
3.หากระดมทุนไม่ถึง Softcap ยอดระดมทุนทั้งหมดจะถูกส่งกลับไปยังผู้ระดมทุนทั้งหมด
โดยโปรเจคเปิดรับการระดมทุนผ่านหลายสกุลเงินดิจิตอล ได้แก่ Dash(DASH) Litecoin(LTC)
Ethereum(ETH) Bitcoin(BTC) และ NEO GAS โดยหากระดมทุนด้วย NEO หรือ GAS จะได้รับส่วนลดเพิ่มอีก2%
โดยราคาของแต่ละรอบการระดมทุนจะตามกันไปตามตารางนี้ . . .
Gagapay Token Supply Distribution
จำนวนเหรียญทั้งระบบมีจำนวน 1พันล้านเหรียญ
69% แจกจ่ายให้แก่นักลงทุนที่ระดมทุนในช่วง 23เมษายน ถึง15กรกฎาคมนี้
14% สำรองไว้สำหรับตัวบริษัทเอง (ค่าพัฒนาแพลตฟอร์ม, ค่า Partners, ค่าการตลาด
10%จะถูกเก็บไว้สำหรับทีม
3% สำหรับกลุ่มผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม Gagapay Network
3% จะถูกเก็บไว้สำหรับจ่ายค่า Bounty และ Airdrop
1% จะนำไปบริจาค
Gagapay Scoring
ICO Bench ให้เรทที่ 3.9/5.0
Trackingico.io ให้เรทที่ 5.0/5.0
Foxico.io ให้เรทที่ 7.0/10.0
Icomarks.com ให้เรทที่ 9.6/10.0
ทั้งหมดถือว่าอยู่ในระดับค่อนข้างดี
Team and Advisors
ทีมมีประสบการณ์การบริหารงานและการทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับด้านนี้ อีกทั้งยังมี Advisor ที่มีฝีมือในด้าน Network Marketing Strategist , System Architect , R&D Engineer of Blockchain, AI and WEB แม้ว่านี่จะเป็นโปรเจคแรกและอาจจะไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก แต่มีความเป็นไปได้มากที่โปรเจคจะเป็นไปตามแผน
สรุปความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน
แม้ว่าโปรเจคนี้อาจจะไม่ได้เป็นที่นิยมเหมือนโปรเจคอื่น แต่ทีมงานมีความเข้าใจถึงเรื่องการตลาดเป็นอย่างดี
อีกทั้งโปรเจคมีความไปได้มากที่ทำได้จริง ถ้ามองในมุมของการลงทุน
โปรเจคพวกนี้มีโอกาสสำเร็จมากกว่ากลุ่มที่ประกาศแบบสวยหรูเรียกคน พอทำไม่ได้ก็เปลี่ยนแผนหรือล่มโปรเจค
Why this project will success ความเห็นส่วนตัวว่าทำไมโปรเจคนี้จะสำเร็จ ?
- โปรเจคมีสเกลที่เป็นไปได้จริง หากบวกความสามารถของทีมงานเข้าไปแล้ว โปรเจคมีสิทธิ์ที่จะสำเร็จและพร้อมใช้งานในระยะตามRoadmap
- ทีมงานมีความเข้าใจถึงปัญหา
- โปรดักที่สร้างให้เหมาะแก่การแก้ปัญหา และตอบสนองต่อปัญหาปัจจุบันได้ค่อนข้างดี
- แพลทฟอร์มที่เลือกใช้ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องกังวลเรื่อง Transaction Fee เนื่องจากไม่มี
- ทีมงานตั้งใจที่จะทำจริง ซึ่งผู้เขียนมองว่าไม่เป็น SCAM
- เป็นบริษัทแรกๆที่ทำด้านนี้โดยใช้ Blockchain เข้ามาช่วยในด้านต่างๆ เช่นการตรวจสอบ ระบบความปลอดภัย ความโปร่งใส สภาพคล่องของระบบ
What Risk อะไรคือความเสี่ยง
- เนื่องจากทำเป็นเจ้าแรก จึงไม่สามารถวัดได้ว่าจะมีลูกค้าที่เข้าใจและก้าวเข้ามาใช้สักเท่าไหร่ ในช่วงแรก
- โปรเจคไม่ Hype หรือไม่เป็นที่นิยมมากนักซึ่งทำให้นักลงทุนบางกลุ่มไม่สนใจ
- โทเคนจะมีมูลค่ามีประโยชน์อย่างแท้จริงเมื่อถึงช่วงที่ระบบใช้งาน เป็นมูลค่าจากส่วนของ Use Case ก่อนหน้าการใช้งานเป็นมูลค่าศรัทธาหรือคาดหวังทั้งสิ้น
- ระบบของ NEO ดีมาก จนบางคนเลิกใช้
เพราะล่มบ่อยกว่าเรือไททานิก ร่วงบ่อยกว่าจรวดอพอลโล - อาจมีปัญหา Scaling ในช่วง ICO แม้ตอนนี้มีเหรียญมีขี่บน NEO ไม่มาก แต่ก็สามารถ หน่วง หนืด ล่ม ได้อย่างเป็นกิจวัตรประจำเทศกาล ICO
- อาจเกิดปัญหา Scaling ในช่วงใช้งานปกติ อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตแม้ไม่มีเหตุการณ์ ICO เพราะระบบรองรับได้ไม่มาก หากมีโทเคนมาขี่บนแพลทฟอร์มมากแล้วผลัดกันส่งแบบปกติ ก็อาจจะเกิน Transcation ลิมิตของ NEO ได้
Cr. www.gagapay.network
Cr. /www.krungsri.com/bank/th/plearn-plearn/top-viral-marketing.html