fbpx

Altcoin Today: Ripple แพลทฟอร์มเงินดิจิทัลแห่งวงการธนาคาร

“ซื้อ XRP สิเหรียญใหญ่คนเทรดเยอะน่าเล่น” นั้นเป็นประโยคที่ผมได้ยินจากเพื่อนคนหนึ่งในช่างปลายปี 2017 ที่ราคา Ripple พุ่งแบบก้าวกระโดดและ หลังจากนั้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2018 ผมก็ได้ยินประโยคจากเพื่อนคนนั้นว่า “ติดดอย XRP 93 บาท” และไม่ใช่แค่เพื่อนผมคนนี้คนเดียวหลายๆคนก็พบเจอกับประสบการณืเดียวกันแล้ว Ripple คืออะไรหละส่วนใหญ่แล้วคนที่ซื้อมักจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไรซึ่งวันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟัง

Altcoin Today: Ripple แพลทฟอร์มเงินดิจิทัลแห่งวงการธนาคาร

28 May 2018

“ซื้อ XRP สิเหรียญใหญ่คนเทรดเยอะน่าเล่น” นั้นเป็นประโยคที่ผมได้ยินจากเพื่อนคนหนึ่งในช่างปลายปี 2017 ที่ราคา Ripple พุ่งแบบก้าวกระโดดและ หลังจากนั้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2018 ผมก็ได้ยินประโยคจากเพื่อนคนนั้นว่า “ติดดอย XRP 93 บาท” และไม่ใช่แค่เพื่อนผมคนนี้คนเดียวหลายๆคนก็พบเจอกับประสบการณืเดียวกันแล้ว Ripple คืออะไรหละส่วนใหญ่แล้วคนที่ซื้อมักจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไรซึ่งวันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟัง

Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!

Ripple คืออะไร?

Ripple นั้นเป็นชื่อของระบบชำระเงิน (Payment gateway) ที่คิดค้นโดยบริษัท Ripple โดยมี Head Quater อยู่ที่ San Francisco โดยแนวคิดของ Ripple นั้นเริ่มมาจาก Ryan Fugger หลังจากที่เขาทำงานให้กับบริษัทแลกเปลี่ยนเงินแห่งหนึ่งใน Vancuver แนวคิดของเขาคือการสร้างระบบการเงินที่มีรูปแบบ Decentralized และทำให้ใครก็ตามสามารถสร้างเงินของตัวเอง ซึ่งหลังจากนั้น Fugger ก็ได้สร้างระบบที่ชื่อว่า RipplePay ขึ้นมา

ในเดือนพฤษภาคมปี 2011 Jed McCaleb ก็เริ่มคิดค้นระบบเงินดิจิทัลที่ธุรกรรมจะสามารถถูกยืนยันโดยคนทุกคนในระบบได้โดยไม่ต้องใช้การขุด (Proof of work) เหมือน Bitcoin หลังจากนั้น Jed McCaleb ก็ได้จ้าง Chris Larsen มาเข้าร่วมและได้ร่วมสนทนากับ Ryan Fugger หลังจากการสนทนาครั้งนั้น McCaleb ก็ได้เข้าร่วมกับ Ripple Community และ Fugger ก็ได้ส่งต่อโปรเจคให้แก่เขาและได้ก่อตั้งบริษัทชื่อว่า OpenCoin ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น Ripple Lab ในปี 2013 และเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น Ripple ในปี 2015

Jed McCalab

แนวคิดของ Ripple ระบบเทคโนโลยี Infrastruceture สำหรับการทำธุรกรรมของธนาคาร โดย Ripple นั้นจะมาแก้ไขปัญหาของการทำธุรกรรมข้ามประเทศอย่าง Swift โดยปัจจุบันทาง Ripple มีผลิตภัณฑ์อยู่ 3 อย่างได้แก่ Xcurrent Xrapid และ Xvia

ระบบ SWIFT

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันการโอนเงินนั้นยังทำด้วยระบบ Swift ซะส่วนมากแล้วไอระบบ Swift นี่มันมีปัญหาอะไรทำไมถึงต้องแก้ไขมัน ก่อนอื่นให้เราดูภาพด้านล่างนี้

ลองนึกภาพเมื่อเราโอนเงินเราต้องเดินไปที่ธนาคารเปิดใบโอนจากธนาคารท้องที่แล้วธนาคารจะส่งคำร้องของเราไปยังธนาคารอีกประเทศนึงและผู้รับจะได้เลข Swift code ไว้อ้างอิง ซึ่งจุดที่ทำให้ระบบนี้ล่าช้าคือ TimeZone นั้นเองเพราะเวลาโอนเงินข้ามประเทศนั้นเวลาการทำการของธนาคารจะแตกต่างกันเพราะมันเป็นระบบที่ใช้คนในการตรวจสอบทำให้เป็นเรื่องปกติที่ การโอนจะล่าช้าได้ตั้งแต่ 1-3 วัน และธนาคารก็จะเก็บค่าธรรมเนียมที่สูงมากและนั้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

 

XCurrent

XCurrent จะเป็นระบบที่มาช่วยในเรื่องการโอนเงินข้ามโลกโดยใช้ InterLedger (ไม่ใช่ Blockchain) ซึ่ง Ledger ตัวนี้นั้นไม่ได้ใช้ XRP เลยแม้แต่น้อยและเป็นบริการที่นิยมที่สุดในแพลทฟอร์มของ Ripple ซึ่งการทำงานของมันนั้นคล้ายกับระบบ Swift มากแต่จุดที่แตกต่างคือระบบ InterLedger จะเป็นตัวที่สามารถตรวจสอบความถูกต้องในการโอนเงินได้โดยไม่ต้องใช้ระบบคนมาตรวจสอบและยังมีการใช้ Cryptograpic มาช่วยในเรื่องการเป็นส่วนตัว ทำให้ธุรกรรมที่ทำผ่าน XCurrent เกิดขึ้นแทบจะ Real Time

 

Xrapid

 

Xrapid นั้นเป็นส่วนที่ใช้ XRP ที่เป็นเงินดิจิทัลที่สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ในปัจจุบัน ซึ่งระบบนี้จะเป็นอีกตัวเลือกให้กับธนาคารที่ไม่ได้ทำข้อตกลงกันไว้ เพราะด้วย Xcurrent นั้นจะทำให้ธนาคารสามารถทำธุรกรรมข้ามธนาคารด้วยเงิน Fiat ได้อย่างรวดเร็วแต่กลับมีข้อแม้ว่าธนาคารทั้งคู่นั้นจะต้องมีระบบที่รองรับกันรวมถึงอาจจะต้องมีเงินค้ำประกันบางส่วน แต่กับธนาคารอื่นๆไม่ได้เป็นอย่างนั้นเช่น หากมีธนาคาร A ในอาเจนตินาที่ใช้เงินเปโซหากมีธนาคาร B ที่คิดจะทำธุรกรรมกับธนาคาร A ธนาคารจะต้องมีเงินสกุลเปโซคงคลังไว้ และจะต้องมีค่าดำเนินการอย่างอื่นเช่นเช็ครวมถึงอาจจะมีความเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้อที่อาาจะเกิดขึ้นได้อีกด้วย XRP จึงถูกใช้แก้ปัญหาในจุดนี้โดยมันโดยหากธนาคาร A จะโอนเงินให้ธนาคาร B ก็เพียงแค่ซื้อ XRP แล้วส่งไปขายให้ธนาคาร B เป็นต้น และนี่เป็นการแก้ไขสภาพคล่องของการโอนเงินโดยมันมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำมมากและใช้เวลาเพียง 3 วินาทีในการโอน อย่างไรก็ตามผลิตภัณที่ธนาคารต่างๆใช้อยู่นั้นกลับเป็น Xcurrent ซะส่วนใหญ่ให้ XRP ถูกสงสัยในมูลค่า

Xvia

xVia เป็น API ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ระบบของ Payment ของ Xcurrent หรือ Xrapid ได้อย่าสะดวกรวดเร็ว ทำให้ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมข้ามโลกอย่างสะดวกสบาย เหมือนมันเป็น User Interface ที่ทำให้ Third Party สามารถนำไปใช้งานได้ง่ายๆโดยขึ้นอยู่กับระบบว่าจะใช้หรือไม่ใช้ XRP ก็ได้

เงินดิจิทัลที่รวดเร็วและถูกที่สุด

 

ในเดือนมีนาคม 2018 มีรายงานว่า Ripple สามารถรองรับธุรกรรมได้ถึง 50,000 ธุรกรรมต่อวินาทีในขณะที่ VISA ทำได้เพียง 24,000 ธุรกรรมเท่านั้น ทำให้มันกลายเป็นเงินดิจิทัลที่มีความรวดเร็วที่สุดแต่สิ่งที่น่าสนใจคือระบบของ Ripple นี้เป็นระบบ Centralized และเป็น Private Blockchain ระบบนี้ไม่มีการเปิดให้คนทั่วไปสามารถเข้ามาขุดหรือร่วมกันเป็นผู้ยืนยันทำธุรกรรมได้ ผู้ที่สามารถยืนยันธุรกรรมของระบบได้มีเพียงธนาคารหรือหน่วยงานจำนวนหนึ่งที่จำกัดไว้เฉพาะกับระบบของ Ripple เท่านั้น และนั้นหมายความว่าระบบ Ripple นั้นมีคนกลุ่มหนึ่งที่มีอำนาจในการปิดบัญชีหรือผลิตเงินเพิ่มตามใจชอบได้ ในเดือนพฤษภาคมปี 2015 มีรายงานว่า Jed McCaleb Co-founder ของ Ripple ถูกอายัดบัญชีที่มีมูลค่า 96 ล้าน XRP แนวคิดการโอนเงินของ Ripple นั้นจะแตกต่างจากระบบของเงินดิจิทัลสกุลเงินอื่นๆ โดยเมื่อเกิดการโอน Ripple จะมีเหรียญ  XRP จำนวนหนึ่งถูกเบิร์นไปในกระบวนการโอนเป็นค่าธรรมเนียม

แม้จะมีข้อกังขาในด้านความเป็น Centralized แต่ประสิทธิภาพในด้านการทำธุรกรรมของ Ripple นั้นนับว่าดีกว่า Cryptocurrency ตัวอื่นๆ เป็นไหนๆ ไม่ว่าจะด้านความรวดเร็วและค่าธรรมเนียม  ในเดือนธันวาคมปี 2017 ได้เกิดธุรกรรมของ Ripple เป็นปริมาณ 900 ล้าน XRP ซึ่งมีมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท โดยมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 0.000012 XRP หรือไม่ถึง 1 สตางค์  ทำให้นวัตกรรมการโอนเงินข้ามประเทศแบบเดิมๆ ได้ถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้นถ้าเทียบกับระบบการโอนเงินข้ามประเทศแบบ Swift  

Altcoin Altcoin Today Article
,
Writer

Maybe You Like